HoonSmart.com>>3 ยักษ์ใหญ่ ลูกของวีจีไอ -อิออนฯ-ฮิวแมนิก้า ผนึกกำลังให้บริการสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล แบรนด์ “Rabbit Cash”คาดเปิดให้บริการครึ่งหลังปี 64 ได้เงินดอกเบี้ยต่ำจากกองทุน กินรวบลูกค้า กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดเล็ก คนขายของออนไลน์ อาชีพอิสระไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ พนักงานออฟฟิศที่ขาดสภาพคล่อง ต้องการเงินด่วน ด้านบล.หยวนต้า มองบวกเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กัน
บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS เปิดเผยว่า วันที่ 29 มี.ค. 2564 บริษัท อิออนฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน กับ บริษัทบีเอสเอส โฮลดิ้งส์ (BSSH) ที่มีบริษัทวีจีไอ (VGI) ถือหุ้น 90% และบริษัท ฮิวแมนิก้า (HUMAN) เพื่อจัดตั้งบริษัทแรบบิท แคช โดย BSSH ถือหุ้นในสัดส่วน 77%, AEONTS ถือ 18% และ HUMAN ถือ 5% เพื่อให้บริการสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ภายใต้แบรนด์ “Rabbit Cash”
ในอนาคตผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้ตกลงในสัญญาร่วมทุนฯ ที่จะเพิ่มทุนและ/หรือให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทร่วมทุน ตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันแล้วไม่เกิน 800 ล้านบาท
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ (VGI) กล่าวว่า การรุกตลาดให้บริการสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Lending) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้ว
“ในยุค digital disruption ที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั่วไปรวมถึงการทำธุรกิจของภาคเอกชน ความต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของคนก็ต้องการความสะดวกรวดเร็วและง่ายเช่นเดียวกัน Rabbit Cash จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การให้บริการสินเชื่อผ่านให้ช่องทางดิจิทัล โดยใช้ alternative data ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน หรือการใช้จ่าย มาพิจารณาความเสี่ยงและเป็นตัวกำหนดวงเงินสินเชื่อและอัตราดดอกเบี้ยที่เหมาะสมให้แก่ผู้กู้ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและปลอดภัย”นายเนลสัน กล่าว
ในช่วงแรกลูกค้าของ “Rabbit Cash” มี 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ 1.กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดเล็ก กลุ่มคนขายของ online กลุ่มคนที่มีอาชีพอิสระ หรือผู้ที่ไม่มีหลักฐานแสดงเงินเดือนหรือที่มาของรายได้ชัดเจน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายนัก 2.กลุ่มพนักงานประจำที่ขาดสภาพคล่องและต้องการใช้เงินแบบเร่งด่วน เช่น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโควิด-19 โดยในช่วงแรกจะเน้นการให้กู้ยืมกับพนักงานในกลุ่มบริษัท ฮิวแมนนิก้า ดูแล โดยผลิตภัณฑ์นำร่องจะเป็นโปรแกรมเงินกู้สวัสดิการอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการผสานศักยภาพความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของ Rabbit Group ความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำตลาดด้านการให้บริการสินเชื่อรายย่อยของ AEONTS และความเป็นผู้นำด้านระบบการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและบริการรับทำเงินเดือนอย่างครบวงจร HUMAN
นอกจากนี้ Rabbit Cash ยังมี Angel Fund ที่สนับสนุนด้านเงินทุนหรือการให้กู้ยืมโดยมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของกิจการรายย่อย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตแบบยั่งยืน คาดว่าการให้บริการ Digital Lending จะสามารถให้บริการได้ภายในครึ่งหลังของปี 2564
ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มองเป็นประเด็นข่าวดังกล่าวในเชิงบวก การร่วมทุนระหว่าง 3 พันธมิตรจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กัน
AEONTS จะเข้ามาดูแลในส่วนของการอนุมัติสินเชื่อและการติดตามหนี้ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของการทำ Digital Lending Platform โดย AEONTS มีระบบติดตามหนี้ที่แข็งแรงและมีประสบการณ์ในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมานานกว่า 20 ปี ขณะที่ VGI มีฐานลูกค้าผู้ถือบัตร Rabbit จำนวนมาก ทำให้คาดจะเห็น Synergy ที่เป็นบวกมากขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ดีด้วยขนาดของทุนจดทะเบียนเริ่มต้นของ Rabbit Cash ที่ต่ำเพียง 800 ล้านบาท หรือเทียบเท่าการปล่อยสินเชื่อที่ระดับ D/E Ratio 3 เท่า เพียง 2,400 ล้านบาท ทำให้ในช่วงสั้นผลบวกดังกล่าวยังไม่กระทบกับงบการเงินมากนัก เราจึงคงคำแนะนำ Trading
สำหรับ AEONTS มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 210 บาท แต่หากยอดปล่อยสินเชื่อดังกล่าวมีการขยายตัวดี บล.หวยวนต้า คาดมีโอกาสที่ Rabbit Cash จะระดมทุนมากขึ้นเพื่อรองรับการพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตขึ้นจะเป็น Upside ต่อประมาณการ
สำหรับ VGI มองว่าการร่วมเป็นพันธมิตรดังกล่าวจะมาช่วยเสริมจุดแข็งของบริษัทในด้านสินเชื่อ ทางพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ” ด้วยผลประกอบการที่ผ่านช่วงที่แย่ไปแล้วในปีก่อน และจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในปี 2564/65 และปี 2565/66 ที่ 767% YoY และ 30 %YoY ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา และภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการยังมี Upside risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ จากรายได้ที่จะเติบโตตามการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ในโซน 2 และรถไฟฟ้าสายใหม่อีก 3 สาย (ทอง ชมพู เหลือง) และเส้นทางที่ BTS มีแผนจะเข้าร่วมประมูลคือ รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม บล.หยวนต้าประเมิน มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 8.90 บาท อิงวิธี Sum of the parts (SOTP) โดยรวมมูลค่าของธุรกิจ VGI ที่ 5.73 บาทต่อหุ้น และบริษัทร่วมตามสัดส่วนการลงทุน PLANB ที่ 0.63 บาทต่อหุ้น MACO ที่ 0.20 บาทต่อหุ้น และ KEX ที่ 2.36 บาทต่อหุ้น