6 บจ.ยันกระทบจำกัด เรือยักษ์ขวางคลองสุเอซ

HoonSmart.com>> “บล.เอเซีย พลัส” ประเมินหุ้นได้ผลบวก-เสียประโยชน์หลังเรือยักษ์ขวางคลองสุเอซร่วมสัปดาห์ ปิดเส้นทางขนส่งสินค้ายุโรป-เอเชีย ชูกลุ่ม “พลังงาน-ขนส่งและโลจิสติกส์ขนส่งทางเรือ” เฮ! ได้รับอานิสงส์ แนะซื้อ PTT-PTTEP-WICE-JWD ด้านกลุ่มส่งออก-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้นกระทบไม่มาก 6 บจ. “STGT-STA-TU-TFG-GFPT-CPF” ยันผลกระทบจำกัดรายได้ส่งออกยุโรปไม่มาก จับตายืดเยื้อกระทบต้นทุนขนส่ง

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) ประเมินกรณีเหตุการณ์เรือยักษ์ Ever Given เกยตื้นติดอยู่กับชายฝั่งลำตัวขวางกั้นคลองสุเอซ (Suez) เป็นเวลาเกือบสัปดาห์ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างยุโรปกับเอเชีย ทำให้เรือลำอื่นรวมกันเกิน 200 ลำไม่สามารถสัญจรผ่านได้

สถานการณ์ล่าสุด คือ เรือยังไม่ขยับมาก แม้น้ำจะขึ้น โดยแผนการล่าสุด ที่จะดำเนินการคือ การขนย้ายตู้สินค้าบนเรือออก เพื่อให้เรือมีน้ำหนักเบาขึ้น และสามารถลากจูงออกมาได้ง่าย โดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1-2 สัปดาห์ เพราะในเรือมีตู้สินค้ากว่า 2 หมื่นตู้ หากยืดเยื้อเป็นเวลานาน 2 สัปดาห์ หรือกรณีเลวร้าย นานร่วมเดือนจะเป็นการซ้ำเติมวิกฤตตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ทำให้อัตราค่าระวางของสายเรือทุกประเภทปรับตัวขึ้นตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น อาทิ ราคาน้ำมันดิบ (วันศุกร์พลิกกลับมา + 4%) ไม่ว่าจะเป็นเรือบรรทุกตู้คอนเทนอเนอร์ และเรือเทกอง รวมถึงเรือขนส่งน้ำมัน

สำหรับผลกระทบโดยรวมเป็นปัจจัยลบกระทบต่อการค้าโลกช่วงสั้น โดย ASPS ประเมินผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จาก Supply ที่หายไปที่สำคัญ คือ ตลาดรอผลกาประชุม OPEC+ 1 เม.ย. ช่วงสั้นราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นดีต่อ PTT แนะ ซื้อ ราคาเหมาะสม 48.5 บาท และ PTTEP ซื้อ ราคาเหมาะสม 118 บาท

กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ที่รับจัดการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) คาดจะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ เช่น LEO รายได้จาก Sea Freight 69%, III รายได้จาก Sea Freight 10%, SONIC รายได้จาก Sea Freight 63% ขณะที่หุ้นที่ฝ่ายวิจัย Coverage คือ WICE แนะซื้อ ราคาเหมาะสม 8.00 บาท มีสัดส่วนรายได้จาก Sea Freight 16% และกลุ่มธุรกิจห้องเย็น-คลังสินค้าจะได้รับประโยชน์คือ JWD แนะซื้อ ราคาเหมาะสม 11.00 บาท เพราะผู้ประกอบการจะนำสินค้าเข้ามาพักไว้ในคลังบริเวณท่าเรือแหลมฉะบัง ในระหว่างที่ต้องรอเวลาบรรจุเข้าตู้สินค้ายาวนานขึ้น

บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัย ASPS ยังได้โทรไปสอบถามบริษัทจดทะเบียนที่ส่งออกเกือบทุกบริษัทที่ทำการศึกษา อาทิ กลุ่มเกษตร -อาหาร ได้แก่ STGT, STA, TU, TFG GFPT CPF ในเบื้องต้นคาดว่าผลกระทบจำกัด เพราะเป็นผลกระทบระยะสั้นและสัดส่วนการส่งออกไปสหภาพยุโรปไม่มาก แต่ยังต้องติดตามว่าปัญหาดังกล่าวจะยืดเยื้อหรือไม่ ซึ่งหากยืดเยื้ออาจทำให้ค่าขนส่งของผู้ประกอบการสูงขึ้น เพราะต้องใช้เส้นทางขนส่งที่ยาวขึ้น

STGT คาดกระทบจำกัด จากการสอบถามทาง STGT พบว่าปัจจุบัน STGT มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกถุงมือยางไปสหภาพยุโรปราว 21% ของรายได้รวม/ปี ซึ่งทาง STGT ประเมินว่าบริษัทเดินเรือจะใช้เส้นทางขนส่งผ่านแหลมกู้ดโฮปหรือเส้นทางอื่นแทนไปก่อน

STA คาดกระทบจำกัด จากการสอบถามทาง STA พบว่าปัจจุบัน STA มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกยางพาราและถุงมือยางไปสหภาพยุโรปราว 12% ของรายได้รวม/ปี ซึ่งทาง STA ประเมินว่าบริษัทเดินเรือจะใช้เส้นทางขนส่งผ่านแหลมกู้ดโฮปหรือเส้นทางอื่นแทน

TU คาดกระทบจำกัด ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปสหภาพยุโรปราว 3% ของรายได้รวม ทั้งนี้ TU มีโรงงานแปรรูปทูน่าที่ประเทศเซเชลส์ ซึ่งผลิตทูน่าสุกแช่แข็ง (Tuna Loin) เพื่อส่งออกไปสหภาพยุโรป เพื่อผลิตทูน่ากระป๋อง คิดเป็นสัดส่วนราว 5% ของรายได้รวม ทำให้ TU มีสัดส่วนรายได้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทั้งสิ้นราว 8% ของรายได้รวม/ปี ทั้งนี้ จากการสอบทาง TU พบว่าบริษัทเดินเรือจะใช้เส้นทางขนส่งผ่านแหลมกู้ดโฮปแทนไปก่อน ส่วนค่าขนส่งสำหรับสินค้าที่จ่ายไปแล้วก็จะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่สำหรับการขนส่งสินค้าใหม่อาจต้องจ่ายเพิ่มขึ้นบ้าง โดยรวมแล้วคาด TU ยังบริหารจัดการได้

TFG คาดกระทบจำกัดเช่นกัน จากการสอบถามทาง TFG พบว่าปัจจุบัน TFG มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไก่ไปสหภาพยุโรปราว 6% ของรายได้รวม/ปี ซึ่งทาง TFG ประเมินว่าปัญหาดังกล่าวจะแก้ไขได้ใน 1-2 สัปดาห์

GFPT คาดกระทบจำกัดเช่นกัน จากการสอบถามทาง GFPT พบว่าปัจจุบัน GFPT มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไก่ไปสหภาพยุโรปราว 5% ของรายได้รวม/ปี

CPF คาดกระทบจำกัดเช่นกัน จากการสอบถามทาง CPF พบว่าปัจจุบัน CPF มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไก่ไปสหภาพยุโรปเพียง 2% ของรายได้รวม/ปี

กลุ่มชิ้นส่วนฯ KCE ได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากสัดส่วนที่บริษัทรับผิดชอบขนส่งเป็น 40% ของคำสั่งซื้อทั้งหมด (และลูกค้ารับผิดชอบเอง 60%) โดยในส่วนที่ KCE รับผิดชอบจะเป็นการส่งทางอากาศ 40% และทางเรือ 60% ทำให้รายได้ที่ใช้การขนส่งทางเรือที่ KCE รับผิดชอบคิดเป็น 24% ของรายได้รวม โดย KCE มีสัดส่วนรายได้ส่งไปสหภาพยุโรป 55% ของรายได้รวม/ปี ทำให้ Net exposure คิดเป็น 13% ของรายได้ทั้งหมด

DELTA คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัด โดย DELTA มีลูกค้าสหภาพยุโรปราว 12% ของรายได้รวม/ปี โดยคาดว่าบริษัทขนส่งจะเปลี่ยนเส้นทางไปขนส่งผ่านแหลมกู้ดโฮปหรือเส้นทางอื่นแทนไปก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ระยะการส่งมอบสินค้านานขึ้นราว 1-2 สัปดาห์

SVI คาดว่าจะกระทบจำกัด ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 80% ในสหภาพยุโรป แต่การขนส่งและนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นการขนส่งทางอากาศเป็นหลัก ทำให้ให้ Net exposure จากการขนส่งทางเรือไปยุโรปคิดเป็นเพียงราว 5% ของรายได้ทั้งหมด

HANA คาดกระทบจำกัด เนื่องจากไม่ได้มีลูกค้าอยู่ในสหภาพยุโรป โดยลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่กว่า 80% อยู่ในทวีปอเมริกาและเอเชียเป็นหลัก แต่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากลูกค้าบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่าทีมกอบกู้เรือ Ever Given ที่จอดขวางคลองสุเอซ ให้กลับมาลอยได้อีกครั้ง หลังจากที่เรือเกยตื้นมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ โดยผู้กอบกู้ได้ใช้วิธีขุดเจาะทราย ปริมาตรราว 27,000 ลูกบาศก์เมตร ออกไปบริเวณริมฝั่งคลองที่ติดกับตัวเรือ จนเรือกลับมาลอยน้ำได้สำเร็จ และพยายามที่จะใช้เรือลากเพื่อหมุนหัวเรือให้กลับมาสู่เส้นทางการเดินเรืออีกครั้ง