ดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด วิตกโควิดระบาดระลอกใหม่

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดร่วง 308 จุด วิตกการระบาดระลอกใหม่ ราคาน้ำมันดิบดิ่งกว่า 6% หุ้นกลุ่มพลังงาน-เดินทางทรุด  ส่วนหุ้นยุโรปลง เยอรมนีขยายการล็อกดาวน์ออกไปอีกหนึ่งเดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) วันที่ 23 มี.ค.2564 ปิดที่ 32,423.15 จุด ร่วงลง 308.05 จุด หรือ 0.94% เป็นผลจากการปรับตัวลงของหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมากสุดหากการฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของเศรษฐกิจโลกสะดุด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,910.52 จุด ลดลง 30.07 จุด, -0.76%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,227.70 จุด ลดลง 149.84 จุด, -1.12%

หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 3.4%

กลุ่มเดินทางและสันทนาการถูกเทขายจากการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกอีกครั้ง หุ้นคาร์นิวาลและหุ้นนอร์วีเจียนต่างลดลงกว่า 7% หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์และหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ต่างลดลงกว่า 6% หุ้นค้าปลีก Gap ลดลงเกือบ 8%

องค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่า ทุกภูมิภาคของโลกมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะไวรัสที่มีการติดเชื้อยังคงระบาด เยอรมนีขยายการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 18 เม.ย. ขณะที่ 1ใน 3 ของฝรั่งเศสเข้าสู่การล็อกดาวน์นาน 1 เดือนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า 6% ท่ามกลางความวิตกต่อการระบาดรอบสามทั่วโลก

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 57.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 3.83 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 60.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง โดย หุ้นเอ็กซอน โมบิลลดลง 1.25% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.56%

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้โดยรวมสถานการณ์ดีขึ้น แต่การระบาดระลอกสามยังมีผลต่อความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ทั้งในด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการเยียวยาผลกระทบต้องใช้เวลา เช่นเดียวกันการฉีดวัคซีนที่ต้องใช้เวลากว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้

สหรัฐฯได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2.5 ล้านเข็ม แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นใน 21 รัฐจากการที่ผ่อนคลายมาตรการให้กับธุรกิจ

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง(เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังร่วมกันให้ถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก โดยทั้งคู่ระบุว่ารับรู้เกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในตลาด แต่ไม่กังวลต่อเสถียรภาพทางการเงิน

นางเยลเลนกล่าวว่า ในสภาวะที่ราคาสินทรัพย์สูงขึ้น หน่วยงานกำกับดูแลต้องดูแลให้ภาคการเงินมีความสามารถในการปรับตัวและดูแลตลาด

ด้านนายพาวเวลล์กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องอย่างรวดเร็วกว่าที่คาด และค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ยังไม่สมบูรณ์ และหากถึงเวลาที่จะต้องลดการซื้อสินทรัพย์ เฟดจะสื่อสารอย่างระมัดระวังและจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การที่จะลดการซื้อสินทรัพย์ได้นั้น จะต้องมีความคืบหน้าตามเป้าหมายอย่างชัดเจน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง มาที่ 1.62%

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดขายบ้านใหม่เดือนกุมภาพันธ์ลดลง 18.2% สู่ระดับ 775,000 ยูนิต ต่ำกว่า 875,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.5% นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกสามของไวรัสโควิด-19 หลังจากมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อแผนการผ่อนคลายมาตรการจำกัดและการล็อกดาวน์

ในเยอรมนีนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล สั่งขยายการล็อกดาวน์ออกไปอีกหนึ่งเดือน

ในอังกฤษ อัตราการว่างงานลดลงเกินคาดมาที่ 5% ในรอบ 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมกราคม ซึ่งนักวิเคราะห์จากไอเอ็นจีระบุว่า หลายภาคธุรกิจเริ่มกลับมาและการจ้างงานภาคธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบริโภคเริ่มดีขึ้น

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 423.31 จุด ลดลง 0.86 จุด, -0.20%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,699.19 จุด ลดลง 26.91 จุด, -0.40%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,945.30 จุด ลดลง 23.18 จุด, -0.39%

ดัชนี DAX ปิดที่ 14,662.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด, +0.03%