MFC : “Value-Growth Balancing”

Weekly Investment Strategy 22 มีนาคม 2564
Top Stories

ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมเม็ดเงินจํานวนมากหลังไหลเข้าลงทุนในหุ้นคุณค่า (value stock) และหุ้นกลุ่มวัฏจักร (cyclical stock) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งหุ้นคุณค่าและหุ้นวัฏจักรจะเป็นหุ้นที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากราคาหุ้นจะปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจ

หากย้อนกลับไปในปี 2545 (ค.ศ.2003) เป็นช่วงที่หุ้นคุณค่าเริ่มมี performance ที่่ดีกว่าหุ้นเติบโต เนื่องจากเป็นช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ Dot-Com Bubble โดยหุ้นคุณค่าจะมี performance ที่ดีกว่าในช่วงหลังเกิดวิกฤต แต่ในภายหลังส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนระหว่างหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโต จะค่อย ๆ ลดลง ตามตารางด้านล่าง ซึ่งในระยะยาวหุ้นเติบโตจะมี performance ที่ดีกว่าหุ้นคุณค่า เนื่องจากหุ้นเติบโตมีศักภาพและผลการดําเนินงานทีโดดเด่นกว่าในระยะยาว


อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดวิกฤตหรือเกิดเหตุการณ์ทีทําให้ตลาดหุ้นปรับ Different Return between Value VS. Growth ตัวลงแรง ทั้งหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโตต่างก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

เรามองว่ากลุ่มที่จะทํา performance ได้โดดเด่นในระยะสันจะเปนหุ้นคุณค่าและหุ้นวัฏจักร เพราะได้รับผลในเชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวหุ้นเติบโตจะสามารถทํา performance ได้ดีกว่าหุ้นคุณค่าและหุ้นวัฏจักรมาก ดังนันควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมระหว่างหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโต

เนื่องจากในระยะสั้นหุ้นคุณค่าจะทํา performance ได้ดีกว่าในช่วง 1-2 ปี แต่ในระยะยาวหุ้นเติบโตจะมี performance ที่ดีกว่าหุ้นคุณค่ามาก โดยราคาหุ้นเติบโตที่ลดลงในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นเติบโตที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว อย่างเช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

กองทุนแนะนํา: MFTECH, MGTECH, MATECH, MEURO, M-EM, M-FOCUS, M-MIDSMALL

Charts of the week

หุ้นคุณค่า (Value Stock) มี performance ดีกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stock) มา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ตังแต่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 หุ้นเติบโต อาทิเช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ได้รับอานิสงค์จากการแพร่ระบาดของโควิด19 อย่างมาก โดยมี
performance ที่โดดเด่นกว่าหุ้นคุณค่ามาก ซึงการแพร่ระบาดของโควิด19 ทําให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย รัฐบาลและธนาคารกลางของแต่ละประเทศใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปริมาณมหาศาล นํามาซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทีเริมดีขึ้น


โดยในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เริ่มมีสัญญาณการฟนตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่มีการปรับตั้อย่างรวดเร็ว จากอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ที่ปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มวัฏจักรและหุ้นคุณค่าในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เริ่มมี performance ดีกว่าหุ้นเติบโต โดยหุ้นคุณค่ามี performance ดีกว่าหุ้นเติบโตมา 6 สัปดาห์ ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ควรจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นคุณค่า เพราะหุ้นคุณค่ามีแนวโน้มที่จะทํา performance ได้โดดเด่นกว่าหุ้นเติบโตไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

กองทุนแนะนํา : M-EM, M-EURO, M-FOCUS, M-MIDSMALL

Recommended Funds

M-EM :การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2564 ส่งผลบวกต่อหุ้นในตลาดเกิดใหม่ เพราะมีการเติบโตของกําไรทีมากกว่าในขณะที Valuation ถูกกว่าตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว การพักฐานรอบนีทําให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ในระดับทีน่าสนใจลงทุนระยะยาว

MCHINA : GDP จีนฟื้นตัวได้รวดเร็ว ได้ประโยชน์ในระยะสั้นจาก Fund Flow และในระยะยาวจากกลุ่มชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและยังมี Valuation ที่ค่อนข้างถูกเมือเทียบกับประเทศอื่น ๆ รัฐบาลมุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพให้ระบบเศรษฐกิจจีนมากขึน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของประเทศ การพักฐานรอบนี้ทําให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ในระดับทีน่าสนใจลงทุนระยะยาว

M-MIDSMALL: กองทุนหุ้นไทยที่มีผลตอบแทนโดดเด่นชนะดัชนี SET TRI ในปทีผ่านมา การเติบโตของหุ้นขนาดกลางและเล็กทั่วโลกผนวกกับการเลือกหุ้นที่ยอดเยียม ทําให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย

M-FOCUS: กองทุนหุ้นไทยทีบริหารพอร์ตการลงทุนแบบ Active ผู้จัดการกองทุนมีความเชียวชาญในการคัดสรรหุ้น โดยมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นทีมีโอกาสเติบโตสูงและมีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 บริษัท โดยตังแต่ต้นปสร้างผลตอบแทน +22.47% ขณะที SET TRI Index ปรับขึน +9.11%

MEURO: ตลาดหุ้นยุโรปยังเป็นตลาดที่ Laggard อยู่และมีมูลค่า (Valuation) ที่ค่อนข้างถูก ตลาดหุ้นยุโรปยังมีศักยภาพในการเติบโตทีดี โดยคาดว่าในป 2565, Earning Growth จะเติบโตมากที่สุดในโลก รวมถึงยุโรปสามารถควบคุมโควิด19 ได้ดีขึน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นยุโรป แนะนําลงทุนระยะยาว