ASW จ่อขาย 206 ล้านหุ้น จุดเด่นอสังหาฯทำเลดี กำไรโต

HoonSmart.com>>”แอสเซทไวส์” อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เตรียมเคาะราคาขาย  206 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท ไตรมาส 2/64  แนวโน้มผลงานปี 64 โตจากปีก่อน มาร์จิ้นสูง   Backlog ที่ 7.8 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ 5.3 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือยาวถึงปี 66 ตุนโครงการสร้างเสร็จ-เปิดใหม่อีก 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.08 หมื่นล้านบาท มั่นใจหลังเข้า SET  สร้างการเติบโตมากในอนาคต

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แอสเซทไวส์ (ASW)  เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน  206 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.07% ของทุนเรียกชำระแล้ว มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คาดว่าจะสามารถกำหนดราคาขายหุ้น พร้อมวันเปิดจองหุ้น และวันที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในช่วงไตรมาส 2/2564 นี้

ส่วนจุดเด่นของ ASW คือ อสังหาริมทรัพย์ที่มีการเลือกทำเลที่ดี และมีแบรนด์ที่หลากหลายเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน มีเซ็กเม้นท์ชัดเจน ได้แก่ 1. แอทโมซ “Atmoz” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 2. โมดิซ “Modiz” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับความหรูหรา และ 3.เคฟ Kave” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise เน้นทำเลใกล้กับสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ

ที่สำคัญ ASW มีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ก็ยังสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น และมีอัตรากำไรสูง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 44% และ อัตรากำไรสุทธิ สูงถึง 20.6% ประกอบกับผู้บริหารและทีมผู้บริหาร ASW มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการพัฒนาโครงการ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก จึงเชื่อมั่นว่า การเสนอขายหุ้น ASW ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ และเป็นอีกหนึ่งบริษัทได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

“เราเชื่อว่าหุ้นไอพีโอยังได้รับความสนใจอยู่ จากสภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งหุ้น ASW มีจุดเด่นที่หลากหลาย ด้วยการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ทั้งบ้านแนวราบและแนวสูง และการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละทำเล ทำให้มั่นใจได้ว่าหุ้น ASW จะได้รับความสนใจที่ดีจากนักลงทุน” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

ด้านนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW)  เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนใน SET โดยจะนำเงินไปซื้อที่ดิน และชำระหนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ รองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบในอนาคต

แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,205 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 7,848 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้จำนวน 5,302 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2566 นอกจากนี้บริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) จำนวน 4,094 ล้านบาท จาก 8 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ประกอบกับมีสินค้าที่จะสร้างเสร็จใหม่ปีนี้มูลค่ารวม 6,694 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 10,850 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินเปล่าสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคต (ปี 2565-2566) แล้วจำนวน 4 แปลง ซึ่งจะสามารถรองรับการพัฒนาโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 10,352 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัท ASW มีโครงการในมือทั้งหมด 33 โครงการ มูลค่า 30,420 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแล้วเสร็จ 25 โครงการ มูลค่า 19,043 ล้านบาท , โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 11,377 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการในอนาคตอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 21,202 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2561 -2563) กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 4,345.8 ล้านบาท 2,624.9 ล้านบาท และ 4,205 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิที่ 556.6 ล้านบาท 297.1 ล้านบาท และ 870.8 ล้านบาท ตามลำดับ

นายกรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า  บริษัทบริหารจัดการที่ต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างที่ดี เพื่อทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น และภาพรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2 เป็นต้นไป อีกทั้งจะมีปัจจัยหนุนเรื่องค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่ต่ำ เพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภค เชื่อว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ด้วยต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังไอพีโอ บริษัทจะมี D/E กว่า 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.55 เท่า เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานในอนาคต