VL: เรือเล็กออกจากฝั่ง ราคาวิ่ง รอทอดสมอเรือใหม่ VL.23

HoonSmart.com>>VL นับถอยหลังทอดสมอเรือใหม่  VL.23 ขนาด 1-1.2 หมื่น DWT เม.ย.นี้ สยายปีกเส้นทางจีน – อินเดียเพิ่ม  หนุนกองเรือปีนี้ครบ 13 ลำ หนุนรายได้โต 15-20%

ด้าน CEO “ชุติภา กลิ่นสุวรรณ” เดินหน้าปรับกลยุทธ์ รับเรือขนาด 10,000-12,000 DWT เร็วขึ้นเป็นปลายปีนี้  ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ทางทะเล ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย

นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์  (VL)   เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นและตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ทางทะเล โดยในเดือนเมษายนนี้ เรือลำใหม่ VL.23 ขนาด 2,800 เดทเวทตัน (DTW) จะเดินทางมาถึงประเทศไทย สามารถให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลในเชิงพาณิชย์ได้ทันที  รับรู้รายได้จากเรือลำดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 นี้

สำหรับ VL ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย

จากกรณีที่เรือ VL.23 เข้ามา ส่งผลให้ปีนี้ VL มีกองเรือทั้งหมด 13 ลำ  น้ำหนักบรรทุกเรือรวม 41,892 DWT  อายุเฉลี่ยกองเรือ 13 ปี ถือได้ว่าเป็นกองเรืออันดับ 1 ของกองเรือน้ำมันในประเทศไทย และเป็นการเสริมศักยภาพรองรับการเติบโต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 15-20%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ รับเรือเพิ่มอีก 1 ลำ ขนาด 10,000-12,000 DWT ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้จากเดิมที่จะ รับเรือขนาดดังกล่าวในปี 2565

ส่วนในปี 2566 บริษัทฯจะต่อเรือใหม่อีก 1 ลำ ขนาด 3,000 DWT ส่งผลให้ปี 2566 จะมีจำนวนกองเรือเพิ่มขึ้นเป็น 15 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 53,801 DWT จากปี 2563 ที่มีเรือทั้งสิ้น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 39,019 DWT รองรับดีมานด์การขนส่งในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภู มิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง โดยจะมีการขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ ไปยังประเทศจีน และอินเดีย เป็นต้น

ด้านราคาหุ้น VL เช้านี้ เปิดตลาดปรับตัวขึ้นแรง ที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท เพียง 10 นาทีแรก วิ่งไป 2.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ 11.65% มูลค่าซื้อขาย 92.71 ล้านบาท