ดาวโจนส์ปิดบวก 103 จุด ซื้อหุ้นเทคโนโลยี บอนด์ยีลด์อ่อนตัว

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 103 จุด แรงซื้อกลับหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลังบอนด์ ยีลด์อ่อนตัว ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 มีนาคม 2564 ปิดที่ 32,731.20 จุด เพิ่มขึ้น 103.23 จุด หรือ 0.32% ด้วยแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัว

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,940.59 จุด เพิ่มขึ้น 27.49 จุด, +0.70%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,377.54 จุด เพิ่มขึ้น 162.31 จุด, +1.23%

หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 2.3% หลัง บริษัท Ark Invest ให้ราคาเป้าหมายใหม่ว่าจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าใน 4 ปี หุ้นแอปเปิล หุ้นไมโครซอฟต์ หุ้นเน็ตฟลิกซ์ต่างเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2% หุ้นแอมะซอนและหุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นกว่า 1%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง 0.05% มาที่ 1.68% หลังจากระดับสูงสุดรอบ14 เดือน ในสัปดาห์ก่อน

นักวิเคราะห์จาก Treasury Partners ระบุว่า หลังจากรับข่าวการเปิดเศรษฐกิจไปแล้วและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรออนตัวลง นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีรายได้ต่อเนื่องและมีผู้ใช้เพิ่มขึ้น

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น จากรายงานเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน วางแผนผลักดันโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่โกลด์แมนแซคส์คาดการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจะมีมูลค่าราว 2 ล้านล้านดอลลาร์

หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 0.3%

นอกจากนี้นักลงทุนยังมีมุมมองทางบวกต่อแนวโน้มตลาดและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดมีความคืบหน้า และมีการเปิดเผยข้อมูลว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพ 79% ในการป้องกันการติดเชื้อและมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันการติดเชื้อรุนแรงและเข้ารักษาในโรงพยาบาล

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไปที่ระดับก่อนโควิดเมื่อเร็วๆนี้ ไม่น่าจะกังวลนักเมื่อเทียบกับระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ถดถอยจากการระบาด โดยนักวิเคราะห์จาก BlackRock Investment Institute ระบุว่า การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่นำอัตราผลตอบแทนแทนจริง สมเหตุสมผล และสะท้อนว่า ตลาดขานรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนกุมภาพันธ์ลด 6.6% สู่ระดับ 6.22 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน เป็นการลดลงมากกว่าที่คาด

ธนาคารกลาง (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผย ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) เดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลงสู่ระดับ -1.09 เป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 และต่ำกว่า +0.68 ที่นักวิเคราะห์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.7% แต่นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ในตุรกี หลังจากประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน สั่งปลดผู้ว่าการธนาคารกลางกะทันหัน ส่งผลให้ค่าเงินลีร์ผันผวน

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 424.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด, +0.19%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,726.10 จุด, เพิ่มขึ้น 17.39 จุด, +0.26%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,968.48 จุด ลดลง 29.48 จุด, -0.49%

ดัชนี DAX ปิดที่ 14,657.21 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด, +0.25%

หุ้นโฟลค์สวาเกนและหุ้นปอร์ช เพิ่มขึ้น 7% และ 8.9% ตามลำดับหลังดอยช์แบงก์ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น

หุ้นเดินทางและสันทนาการลดลง จากความวิตกต่อการระบาดของไวรัสรอบใหม่ หุ้นไอเอจี บริษัทแม่ของบริติชแอร์เวย์ หุ้น Dufry ธุรกิจดิวตีฟรีจากสวิตเซอร์แลนด์ต่างลดลง 5%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ปิดที่ 61.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 9 เซนต์ปิดที่ 64.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
อ่านข่าว

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้บวก-เอเชียมีทั้งขึ้น ลง