ดาวโจนส์ปิดบวก 293 จุด บอนด์ยีลด์ปรับเพิ่มขึ้น

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 293 จุด แรงซื้อหุ้นกลุ่มวัฎจักร หลังนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการเปิดเศรษฐกิจ ด้านบอนด์ยีลด์ปรับเพิ่มขึ้น กดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขาย ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ร่วง ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12 มีนาคม 2564 ปิดที่ 32,778.64 จุด เพิ่มขึ้น 293.05 จุด หรือ 0.90% เป็นระดับนิวไฮอีกครั้ง จากความเชื่อมั่นที่มากขึ้นต่อการเปิดเศรษฐกิจทำให้มีแรงซื้อกลับมาในกลุ่มวัฏจักร อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นทำให้เกิดความกังวลต่อมูลค่าหุ้นจึงส่งผลให้มีการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,943.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, +0.10%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,319.86 จุด ลดลง 78.81 จุด, -0.59%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์เพิ่มขึ้น 2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชสเพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 6.8% หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 4.2%

หุ้นอัลฟาเบทและหุ้นเฟซบุ๊กต่างลดลง 2% ส่วนหุ้นแอมะซอน หุ้นแอปเปิล และหุ้นไมโครซอฟต์ปิดในแดนลบ นอกจากนี้รายงานข่าวที่ว่า ทางการจีนสั่งปรับเทนเซนต์และไป่ตู้รายละ 500,000 หยวนฐานผูกขาดทางการค้า และยังปรับบริษัทเทคโนโลยีอีกร่วมสิบรายก็มีผลต่อกลุ่มเทคโนโลยี

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 10 จุดมาที่ 1.64% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน และระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 และนับตั้งแต่ต้นปี 2021 เพิ่มขึ้นแล้ว 0.92%

การปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีอีกรอบจากที่ปรับตัวขึ้นในต้นสัปดาห์ ด้วยความกังวลผลกระทบที่จะมีต่อผลกำไรในอนาคต

นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น และแนวนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่ผ่อนปรนน้อยลง เป็นปัจจัยลบของสินทรัพย์เสี่ยง แต่การผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ทำให้จำนวนปัจจัยเสี่ยงลดลง

ด้าน Ned Davis Research ประเมินว่าดัชนี Nasdaq 100 ที่มีหุ้นบริษัทนอกภาคการเงิน 100 บริษัทจะลดลงอีก 20% หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีแตะ 2%

ในสัปดาห์นี้ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.6% และดัชนี Dow เพิ่มขึ้น 4%

นักวิเคราะห์จาก Wealth Alliance ระบุว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มวัฏจักรหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าการแจกเงินเยียวยาโควิดให้ประชาชนคนละ 1,400 จะเริ่มขึ้นในสุดสัปดาห์นี้

ประธานาธิบดีไบเดน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคมว่าจะกำชับให้หน่วยงานรัฐดูแลให้ประชาชนผู้ใหญ่ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนภายในวันที่ 1พฤษภาคมตามเป้าหมายแรกในการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมงานฉลองวันชาติที่ 4 กรกฎาคมนี้

กระทรวงแรงงานรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนเป็นการปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 และเพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ซึ่งปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 83.0 สูงสุดในรอบ 1 ปี และสูงกว่า 78.5 ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่ม นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 2% และส่วนหนึ่งจากรายงานข่าวการสั่งปรับบริษัทเทนเซนต์ของทางการจีน

นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากการมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในอิตาลี รวมทั้งผลที่เกิดขึ้นจากการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 423.08 จุด ลดลง 1.09 จุด, -0.26%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,761.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.51 จุด, +0.36%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,046.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด, +0.21%,

ดัชนี DAX ปิดที่ 14,502.39 จุด ลดลง 67.00 จุด, -0.46%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 65.61ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 69.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล