HoonSmart.com>>หุ้นไทยร้อนแรง พุ่งขึ้น 1.5% ดัชนีปิดที่ 1,573.05 จุด สถาบันไทย-ต่างชาติเฮโลซื้อเฉียด 6 พันล้านบาท นักวิเคราะห์เตือนเข้าใกล้เป้าหมาย 1,600 จุด ทยอยขายทำกำไร นักลงทุนหมุนเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ บล.หยวนต้าชู LH เด่นสุด เป้าหมาย 9.45 บาท ปันผล 7% ต่อปี บล.ฟินันเซียฯ แนะซื้อถือรอปันผล SPALI-AP-LH บล.เมย์แบงก์ ชอบ SPALI คาดกำไรปกติโต 40% มากสุดในกลุ่ม
ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น วันที่ 10 มี.ค. 2564 หลังบอนด์ยีลด์ของสหรัฐอ่อนตัวลง และมีความหวังสภาสหรัฐผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ จุดพลุให้นักลงทุนวิ่งเข้าตลาด ดันดัชนีปิดที่ระดับ 1,573.05 จุด เพิ่มขึ้น 22.46 จุด หรือ +1.45% มูลค่าการซื้อขาย 107,925.07 ล้านบาท แรงซื้อหนักๆมาจากสถาบันไทย 3,143.60 ล้านบาท และต่างชาติช่วยด้วย 2,789.89 ล้านบาท เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ ส่วนนักลงทุนไทยขายหุ้นมากถึง 5,496.15 ล้านบาท
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นพระเอก เพราะหุ้นถูก และมีผลตอบแทนปันผลน่าสนใจ โดย LH จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.30 บาทขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พ.ค.นี้ SPALI จ่าย 0.50 บาท XD วันที่ 29 เม.ย. AP จ่ายปันผลหุ้นละ 0.40 บาท แถมพิเศษอีก 0.05 บาท ขึ้น XDวั นที่ 11 พ.ค. และ SIRI จ่ายหุ้นละ 0.04 บาท XD 15 มี.ค.
ส่วนบริษัทเอเวอร์แลนด์ (EVER) ซิลลิ่ง ปิดที่ 0.28 บาท +0.06 บาท บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท (J) แรง 23.84% ปิดที่ 3.74 บาทจนตลาดหลักทรัพย์สั่งให้เข้าแคชบาลานซ์ แม่ลูก J-W1 มีผลวันที่ 11-31 มี.ค. 2564
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นขึ้นโดดเด่น ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,562 จุดได้ คาดตลาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,580 จุด แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง ราคาหุ้นเริ่มตึงตัว ใช้โอกาสย่อสะสมหุ้นใหญ่ PTTGC ,SCB ,BEM เก็งกำไรในหุ้น HANA และ KCE ส่วนหุ้นเติบโต แนะนำ NRF
บล.ฟินันเซีย ไซรัสแนะทยอยทำกำไร ดัชนีเข้าใกล้เป้าหมาย 1,580-1,600 และให้เลือกลงทุนในหุ้น Value ที่มี P/E ต่ำ รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แต่หากทะลุแนวต้านสำคัญ 1,560 จุด มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,590 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,560 จุด
ส่วนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นโดดเด่น วันที่ 10 มี.ค. นายวิจิตร กล่าวว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังมี P/E ต่ำมากเทียบกับกลุ่มอื่นๆ และยังมีความน่าสนใจที่ปันผลทั้งกลุ่มเฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปี รวมถึงด้วยความคาดหวังจะกลับมาเปิดประเทศ นักลงทุนต่างประเทศกลับมา ถ้าให้เลือกลงทุน แนะนำหุ้น SPALI คาดกำไรปกติเติบโตเกือบ 40% คาดว่าน่าจะเติบโตมากที่สุดในกลุ่ม จากการที่มียอด Backlog ค่อนข้างมาก และ P/E ไม่แพง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับขึ้นจากการที่ราคาขึ้นช้ากว่าตลาดมาก (Laggard) และได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกจากการที่ใกล้จะกลับมาเปิดประเทศ หลังเริ่มมีการใช้วัคซีน แนะนำหุ้น LH ที่ราคาเป้าหมาย 9.45 บาท นอกจากราคายังขึ้นช้าแล้ว ยังเป็นหุ้นขนาดใหญ่ ตกเป็นเป้าหมายของ Fund Flow ต่างประเทศ และคาดว่าจะจ่ายปันผลในอัตราที่ดีประมาณ 7% ต่อปี
“เราชู LH เด่นที่สุดในกลุ่ม เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ด้วยปัจจัยที่หนุนที่โดดเด่น อีกทั้งการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวกลับมาคาดว่าจะเข้าหนุน LH Hotel ที่ทาง LH มีสัดส่วนถือหุ้นด้วย และกำไรปกติปี 2564 เราคาดไว้ที่ 7,800 ล้านบาท โตขึ้นถึง 20.6% จากปีก่อน” นายณัฐพล กล่าว
ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับขึ้น เพราะว่าราคาหุ้นยัง Laggard ราคาค่อนข้างถูก P/E เฉลี่ยทั้งกลุ่มไม่ถึง 10 เท่า เงินปันผลน่าสนใจเงินปันผล เฉลี่ยทั้งกลุ่มจ่ายตอบแทนประมาณ 5-8% ต่อปี
กลยุทธ์การลงทุน แนะซื้อเพื่อรอปันผล ให้ SPALI ที่ราคาเป้าหมาย 26 บาท คาดจ่ายปันผลปี 64 ประมาณ 6% มีพอร์ตทั้งแนวราบและแนวสูง สามารถเติบโตได้ดี แนะนำ AP ที่ราคา 9.20 บาท คาดจ่ายปันผล (จ่ายครั้งเดียว) 5% แต่กำไรอาจจะหดตัวจากปีก่อน P/E ที่ 6 เท่า และแนะนำ LH ที่ราคา 9.60 บาท คาดจ่ายปันผล 6% เป็นหุ้นเป้าหมายหาก Fund Flow กลับมา