HoonSmart.com>> บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนเปิดกรุงศรี ESG Climate Tech -สะสมมูลค่า (KFCLIMA-A) ลงทุนเชิงรุกเพื่อโอกาสการลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ถึง 16 มี.ค. 64
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถือเป็นวาระระดับโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหามลภาวะทางอากาศและฝุ่นละออง ปัญหาด้านคุณภาพน้ำ รวมทั้งปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง จากปัญหาต่างๆ ดังกล่าวก่อให้เกิดธีมการลงทุนยุคใหม่แห่งอนาคตจากการลงทุนในเทคโนโลยีรักษ์โลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับความนิยมมากขึ้น และได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศหลักๆทั่วโลกที่ร่วมมือกันลดการปล่อยคาร์บอน และสนับสนุนการลงทุนในพลังงานสะอาดเพื่อพัฒนาสภาพภูมิอากาศให้ดีขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้ตั้งเป้าหมายในการลดคาร์บอนให้เหลือ 0% ภายในปี 2050 ประเทศจีนตั้งเป้าลดคาร์บอนให้เหลือ 0% ภายในปี 2060 ด้านสหรัฐก็คาดว่าจะมีการประกาศนโยบายในการลดคาร์บอนเช่นกัน”
“ที่ผ่านมามีเงินลงทุนของสถาบันต่างๆที่มีเป้าหมายหลักด้านการลงทุนเพื่อพัฒนาสภาพภูมิอากาศเป็นมูลค่ากว่า 17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่ามีมูลค่าเงินลงทุนในพลังงานสะอาดปี 2563 มูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตของธีมการลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของประเทศหลักๆทั่วโลกที่มีความน่าสนใจและมีความผันผวนจาก GDP หรือตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆน้อยกว่าธีมการลงทุนอื่นๆ จึงเป็นที่มาของการเสนอขายกองทุนเปิดกองทุนเปิดกรุงศรี ESG Climate Tech -สะสมมูลค่า (KFCLIMA-A) ที่ลงทุนในกองทุนหลักคือ DWS Invest ESG Climate Tech”นางสุภาพร กล่าว
สำหรับจุดเด่นของกองทุนหลักคือมีการกระจายการลงทุนในหุ้นหลากหลายอุตสาหกรรมกว่ากองทุนอื่น เพราะนอกจากจะมีการลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยการลดหรือป้องกันการปล่อยคาร์บอน เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ รถยนต์ไฟฟ้า อาคารประหยัดพลังงาน บริษัทที่ขายซอฟต์แวร์ผ่านระบบ Cloud กองทุนหลักยังมีการลงทุนเพิ่มในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอีกด้วย เช่น บริษัทผลิตเครื่องฟอกอากาศ บริษัทที่ผลิตยาโรคภูมิแพ้ บริษัทที่ทำเกี่ยวกับนวัตกรรมการจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำการเกษตรที่มีความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหาภัยพิบัติ เป็นต้น
นอกจากนี้เกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกหุ้นของกองทุนหลักยังให้ความสำคัญกับ ESG โดยมีการคัดกรองบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ ESG ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งหรือเป็นบริษัทผู้นำด้าน ESG ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมภิบาลอีกด้วย
ทั้งนี้ กองทุนหลักมีการลงทุนเชิงรุกและการปรับพอร์ตที่รวดเร็วทันสถานการณ์ ส่งผลให้กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 61.1% (ที่มา: DWS International GmbH โดยเป็นข้อมูลรายวัน ณ 30 ธ.ค. 63 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
สำหรับตัวอย่างหลักทรัพย์ที่กองทุนหลักลงทุน เช่น Microsoft Corp ผู้ให้บริการด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ผ่านระบบ Cloud หากบริษัทต่างๆเปลี่ยนการทำงานด้านโปรแกรมจาก Data Center หรือ Server ส่วนตัว มาใช้ซอฟต์แวร์ผ่านระบบ Cloud จะช่วยให้ประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนมากกว่า 90% Schneider Electric ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการพลังงานที่ครอบคลุมตั้งแต่บ้าน อาคาร Data Center ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2018 บริษัทช่วยลูกค้าลดการปล่อยคาร์บอนไปแล้ว 97ล้านตัน และ Neste Oyj ผู้ผลิต Renewable Diesel ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีโอกาสเติบโตอีกมากจากความต้องการใช้พลังงานทดแทนที่เพิ่มสูงขึ้นในสหภาพยุโรปและสหรัฐ เป็นต้น
“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่าปัจจุบันเป็นจังหวะที่ดีของการลงทุนในกองทุน KFCLIMA-A เนื่องจากการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถือเป็นการลงทุนระยะยาวและเป็นการลงทุนแห่งทศวรรษ ดังนั้นการลงทุนตั้งแต่ระยะแรกจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศต่างๆทั่วโลกที่มีความเข้มงวดและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสของการลงทุนที่ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีโอกาสเติบโตพร้อมรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี” นางสุภาพร กล่าว