KTB มั่นใจเขื่อนลาวแตกไม่กระทบโครงการคาดเดินเครื่องตามแผน

“แบงก์กรุงไทย” มั่นใจเขื่อนลาวทรุด ไม่กระทบแผนดำเนินธุรกิจโครงการ ก่อสร้างคืบหน้า 90% คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามแผนปี’ 62

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยถึงกรณีการทรุดตัวของเขื่อนดินย่อยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งในฐานะธนาคารที่ให้การสนับสนุนทางการเงินร่วมกับสถาบันการเงินอื่นแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อยนั้น ธนาคารคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจของโครงการดังกล่าว โดยขณะนี้โครงการมีความก้าวหน้าในการก่อสร้างประมาณ 90% และกำหนดจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2562

โครงการนี้มีการกำหนดให้ผู้ลงทุนดำเนินการตามมาตรฐานที่รัดกุมตามกฎระเบียบของ สปป.ลาว รวมทั้งมีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อตรวจสอบและควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามคุณภาพและมาตรฐานสากล

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้สันเขื่อนดินกั้นน้ำรอบอ่างเก็บน้ำเซน้ำน้อยเกิดรอยร้าวและน้ำไหลออกไปสู่พื้นที่ท้ายน้ำจนทำให้ประชาชนลาวได้รับผลกระทบจำนวนมาก ธนาคารขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังประชาชนลาว และหวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายโดยเร็ว

นอกจากนี้ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดบัญชีกับ KTB ชื่อบัญชี”หัวใจไทยส่งไป สปป.ลาว”บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 067-0-12886-4 สาขาทำเนียบรัฐบาล เพื่อรองรับการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำรายการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวทุกประเภท ซึ่งสามารถบริจาคผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร เช่น เคาน์เตอร์สาขาทั่วประเทศ ตู้เอทีเอ็ม และ บริการ KTB netbank

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซเปียน-เซน้ำน้อย ดำเนินการโดยบริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท RATCH ในสัดส่วน 25% SK Engineering & Construction Company Limited สัดส่วน 26% Korea Western Power Company Limited สัดส่วน 25% และรัฐบาล สปป. ลาว 24% โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีสัญญาขายไฟฟ้า 354 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟผ. ระยะเวลา 27 ปี (ปี 62-89) และอีก 40 เมกะวัตต์ จะผลิตและจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าลาว