CWT มั่นใจปีนี้ “สกุลฏ์ซี” โตแรง หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง

HoonSmart.com>>“วีระพล ไชยธีรัตต์” บิ๊กบอส CWT มั่นใจปี 64  “สกุลฏ์ซี”  รายได้เติบโตแรง  เตรียมทยอยส่งมอบ “บัส-เรือ” มูลค่า 600 ล้านบาท หนุนผลงาน CWT ทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง ส่วนปี 2563 ที่ผ่านมา กำไรนิวไฮ 117 ล้านบาท  สวนโควิด

วีระพล ไชยธีรัตต์

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป  (CWT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2564 เติบโตเกิน 30% จากปีก่อน และมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1.กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ซึ่งเริ่มมีออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าหลัก โดยคาดว่ารายได้ธุรกิจหนัง 1,400 ล้านบาท ในปีนี้

2.กลุ่มพลังงาน ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 5.0 เมกะวัตต์ คาดจะทำรายได้ปีนี้ประมาณ 340 ล้านบาท

3.บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น ( SKC )  ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์และเรืออะลูมิเนียมรายแรกของไทย อยู่ระหว่างการพัฒนารถบัสดีเซล และรถบัส EV คาดสามารถจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกและส่งมอบงานได้ภายในปลายไตรมาส 1/2564  ตั้งเป้าหมายรายได้กลุ่มนี้ 600 ล้านบาท จากออเดอร์ผลิตเรือ EV ให้กับบริษัท บ้านปูเน็กซ์ และพันธมิตร และรถมินิบัส ที่มีออเดอร์เข้ามากว่า 200 คัน เริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ ไตรมาส 2/2564

“มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากแรงหนุนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็น New S-Curve ของบริษัทฯ ภายใต้บริษัทร่วมทุน “สกุลฎ์ซี” ซึ่ง CWT ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 50% มีแผนส่งมอบรถและเรือในปีนี้กว่า 600 ล้านบาท เข้ามาเสริมรายได้หลักที่มาจากธุรกิจหนัง และธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ที่มีรายได้ประจำจากการขายไฟ”

กรรมการผู้จัดการ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูล สัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) โรงไฟฟ้าขยะของภาครัฐเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทฯ ได้สัญญาเป็นผู้ดำเนินโครงการบริหารจัดการขยะและกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเทศบาลนครสวรรค์ ภายใต้บริษัท กรีน เพาเวอร์ 1 จำกัด (GP1) พัฒนาร่วมกับ บริษัท ซีโรเวซท์ จำกัด

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเข้าพัฒนาพื้นที่และก่อสร้างโรงแปลงขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน RDF และจะเริ่มดำเนินการศึกษาและออกแบบโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ร่วมกับทางเทศบาลนครสวรรค์ควบคู่ไปด้วย เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ขนาดไม่เกิน 10.0 MW ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งหากสามารถประมูลงานเพิ่มเติมได้ คาดว่าจะโครงการแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้

ด้านผลประกอบการ CWT ไตรมาส 4/22563 รวมบริษัทย่อย  มีรายได้รวม 497.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.99 ล้านบาท หรือ 2.68% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 484.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 75.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.09 ล้านบาท หรือ 236% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22.508 ล้านบาท จากปัจจัยหนุนธุรกิจหนังที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แต่ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราคาหนังที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงลูกค้ามีการส่งออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 แห่ง เข้ามาช่วยสนับสนุน

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2563 มีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.77 ล้านบาท หรือ 11.18 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 105.26 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูล สัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) ในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะของภาครัฐเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับสัญญาเป็นผู้ดำเนินโครงการบริหารจัดการขยะและกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเทศบาลนครสวรรค์ ภายใต้บริษัท กรีน เพาเวอร์ 1 จำกัด (GP1) พัฒนาร่วมกับ บริษัท ซีโรเวซท์ จำกัด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเข้าพัฒนาพื้นที่และก่อสร้างโรงแปลงขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน RDF และบริษัทฯจะเริ่มดำเนินการศึกษาและออกแบบโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ร่วมกับทางเทศบาลนครสวรรค์ควบคู่ไปด้วย เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ขนาดไม่เกิน 10.0 MW ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งหากสามารถประมูลงานเพิ่มเติมได้ คาดว่าจะโครงการแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้