ALT กำไร 269 ล้านบ. ชูเงินสดเต็มมือ ลุยลงทุน Smart meter

HoonSmart.com>>ALT โชว์ผลงานปี 63 กำไร 269 ล้านโต 315% กระแสเงินสดเต็มมือ หลังคืนหนี้ธนาคารบางส่วน พร้อมเพิ่มทุนบริษัทลูก Smart meter และลงทุนโครงการต่าง ๆ ในปีนี้  เร่งขยายฐานลูกค้า รุกหาพันธมิตรเพิ่มโอกาสธุรกิจ

สมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์

นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อานวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท เอแอลที เทเลคอม  (ALT)  กล่าวว่า  ผลดำเนินงานปี 2563 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,557.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6% เทียบช่วงเดียวกันปี 2562 ที่มีรายได้  1,001.18 ล้านบาท กำไรสุทธิ 269.69 ล้านบาท เทียบปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 125.30 ล้านบาท กำไรดีขึ้น 315.2% ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) จานวน 1,184 ล้านบาท

สาเหตุที่รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก มาจากรายได้การให้บริการเพิ่มขึ้น 134.1% จาก 491.72 ล้านบาท เป็น 1,151.26 ล้านบาท รายการหลักที่เพิ่มขึ้นคือ รายได้จากโครงการ Smart Grid รวมทั้งรายได้จากการให้บริการโครงข่ายเพิ่มขึ้น 51.5% จาก 154.69 ล้านบาท เป็น 234.42 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมีรายได้อื่น 535.41 ล้านบาท รายการหลัก ได้แก่ เงินชดเชยจากการรชนะคดี 412.53 ล้านบาท และกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน 89.28 ล้านบาท

นายสมบุญ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.75 เท่า  อัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่ำกว่าศูนย์ เนื่องจากบริษัทมียอดรวมของเงินสด เงินลงทุนระยะสั้น และเงินฝากเพื่อการค้าประกันสูงกว่ายอดหนี้เงินกู้ ทำให้บริษัทมีเงินทุนรองรับการขยายธุรกิจในปี 2564 ขณะนี้มีกระแสเงินสดจำนวนมาก โดยคืนธนาคารไปบางส่วน ทำให้มีความพร้อมเพิ่มทุนในบริษัท Smart meter และเตรียมสำหรับการลงทุนโครงการต่าง ๆ ปีนี้

“ปี 2563 เป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างองค์กร ปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะธุรกิจและสถานะเงินทุนของกิจการ เตรียมตัวให้พร้อมต่อการเติบโตในอนาคต ควบคู่กับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจด้ วยการผนึกกำลังกับพันธมิตร ที่ช่วยต่อยอดและขยายฐานธุรกิจให้สอดคล้องกับโอกาสการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อรองรับการพัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะและสังคมออนไลน์ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ พึ่งพิงและเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีมากขึ้น”

นายสมบุญ กล่าวถึง แผนการดำเนินงานปี 2564 จะเร่งการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายที่ได้ลงทุน ด้วยการ ขยายฐานลูกค้าภายในประเทศ ให้เชื่อมโยงไปสู่กิจการไฟฟ้าด้วยการร่วมทุนกับ บริษัทราช กรุ๊ป (RATCH ) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน สมาร์ทอินฟราเนท

ขณะเดียวกัน เข้าซื้อกิจการผู้ผลิตสมาร์ทมิเตอร์ โดยซื้อหุ้น บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จากัด (EMAX) และเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท EMAX เป็น 292.18 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของโครงการ Smart Grid ในอนาคต

นอกจากนี้ยังเร่งเสริมมูลค่าโครงข่ายด้วย Platform ในโครงการ Fiber Space เป็นการบูรณการโครงข่ายของบริษัททุกโครงการเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ รวมถึงขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการขยายบริการไปถึงโครงข่ายของพันธมิตร เช่น โครงข่ายของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

นายสมบุญ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายขยายฐานรายได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่ในกลุ่ม ร่วมส่งเสริมให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ Asean Digital Hub ขณะเดียวกัน แสวงหาพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและความแข็งแกร่งทางการเงิน รองรับการขยายตัวในอนาคต