HoonSmart.com>> “ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์” ปลื้มผลสำเร็จปรับกลยุทธ์ฝ่าโควิด อานิสงส์ “ช็อปดีมีคืน” หนุนโค้งสุดท้ายปี 63 ดันรายได้รวมทั้งปี 1,704 ล้านบาท กำไร 266 ล้านบาท กางแผนปี 64 เดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่องกระตุ้นยอดขายผ่านทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตั้งเป้าดันยอดขายโตไม่น้อยกว่า 10%
น.ส.อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBILE) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานปี 2563 JUBILE สามารถทำรายได้รวมกว่า 1,704.3 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 เพียง 5.7% โดยมีกำไรสุทธิ 266.8 ล้านบาท และยังคงเติบโตจากปี 2562 ประมาณ 1.7%
“ในปี 2563 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่ก็นับว่าเป็นปีแห่งโอกาสของ JUBILE ที่เราได้ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรยูบิลลี่ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นและสร้างโอกาสทางการตลาดกับลูกค้าที่คุ้นเคยกับการซื้อสินค้าออนไลน์ได้เข้าถึงเครื่องประดับเพชรแท้มาตรฐานยูบิลลี่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยสิ่งที่น่าสนใจนอกจากสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นมากในปี 2563 การขยายช่องทางจำหน่ายสู่ออนไลน์ยังสามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย” น.ส.อัญรัตน์ กล่าว
นอกจากกลยุทธ์การปรับตัวสู่ออนไลน์จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ JUBILE สามารถพลิกเกมธุรกิจจนสามารถเติบโตสวนกระแสโควิด-19 ได้แล้วนั้น อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มาจากความเชี่ยวชาญในตลาดค้าปลีกเพชร รวมถึงฐานลูกค้าประจำและสมาชิกที่มีจำนวนมากกว่า 200,000 ราย จึงทำให้ทันทีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายในไตรมาส 3/2563 JUBILE สามารถเดินหน้าจัดกิจกรรมและปล่อยแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาดได้ทันที รวมถึงกิจกรรมการตลาดในรูปแบบ Seasonal Marketing เพื่อให้การซื้อเพชรสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเทศกาลและทุกช่วงเวลา ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค อาทิ การสร้างสรรค์คอลเล็กชันเครื่องประดับเพชรสุดพิเศษ Sweet Sonata ในช่วงวาเลนไทน์, คอลเล็กชัน Prosperous Fortune ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และคอลเล็กชัน Mon Amour ในเทศกาลวันแม่ รวมถึงโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน โดยร่วมมือกับบัตรเครดิตชั้นนำมากมาย
ปี 2563 JUBILE มีรายได้รวม 1,704.3 ล้านบาท ลดลง 102.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 1,806.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 266.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 262.2 ล้านบาท
สำหรับเฉพาะในไตรมาส 4 ของปี 2563 สามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดขายโตสูงสุดและสูงกว่าภาพรวมตลาดด้วยรายได้สูงถึง 567.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ 512.1 ล้านบาท เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ในไตรมาส 4 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 88.0 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562
น.ส.อัญรัตน์ กล่าวถึงปรากฏการณ์ความสำเร็จของ JUBILE ในไตรมาส 4 ปี 2563 ที่มีแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย ทั้งโครงการช้อปดีมีคืนของภาครัฐ ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท โดยมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ซื้อเพชรและนำใบกำกับภาษีไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เนื่องจากไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศประกอบกับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นที่ทำร่วมกับบัตรเครดิตชั้นนำและศูนย์การค้าชั้นนำในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงยิ่งช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อเพชรเป็นของขวัญและซื้อเพชรเพื่อการลงทุนมากขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันในช่วงปลายปี JUBILE ได้จัดงานใหญ่ประจำปี The Legendary of CARAT & JUBILEE’s The Best Diamond Gift Festival 2020 เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนและนักสะสมเพชร ซึ่งถือเป็นงานประจำปีที่โชว์ศักยภาพของ JUBILE ในการรวบรวมเพชรแท้เม็ดใหญ่คุณภาพสูงจากเมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม แหล่งเพชรที่ดีที่สุดในโลกมาจัดแสดงและจำหน่ายได้มากที่สุด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างยอดขายส่งท้ายปีได้อย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งกระทบกับอารมณ์การจับจ่ายของลูกค้าอยู่บ้าง แต่ไม่ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจทั้งในห้างสรรพสินค้าและออนไลน์ยังคงเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ได้มีการล็อคดาวน์เหมือนตอนต้นปี ขณะที่ผู้คนไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวหรือไปต่างประเทศ จึงทำให้มีบางส่วนหันมาให้ความสนใจซื้อทองและเพชรเพื่อออมหรือการลงทุนแทน
น.ส.อัญรัตน์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มปี 2564 แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในชีวิตผู้คนและทุกอุตสาหกรรม แต่การที่ JUBILE ได้ก้าวข้ามผ่านความท้าทายในปีที่ผ่านมา โดยการปรับตัวตอบรับกับทุกสถานการณ์ในเชิงรุก ถือเป็นบทพิสูจน์ของ JUBILE ในฐานะแบรนด์เพชรไทยที่เชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจด้วยการเป็นมิตรกับทุกคน เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเพชรแท้แบรนด์ไทย คุณภาพดีระดับสากล และเชื่อถือได้ โดยในปี 2564 JUBILE ยังคงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์ธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และยังคงเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมการจำหน่าย การบริการหลังการขายให้กับลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 2564 ไม่น้อยกว่า 10%
“แม้ในปี 2564 สถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับเราทุกคนโดยคาดเดาได้ยากว่าจะจบลงเมื่อไร แต่สิ่งหนึ่งที่ JUBILE ตระหนักและมุ่งมั่นให้ความสำคัญ คือการปรับตัวและพลิกวิกฤตเป็นโอกาส มองหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจ โดยที่ผ่านมาเราไม่รอช้าในการปรับตัวและการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดในเวลานั้นๆ ผ่านการจัดการข้อมูลที่เป็นรากฐานในการบริหาร ซึ่งในทุกการปรับตัวของเราก็ได้รับผลลัพธ์จากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพชรที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่หยุดนิ่งในการปรับตัวเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลายด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง” น.ส.อัญรัตน์ กล่าว