HoonSmart.com>หุ้นไทยไหลลงตามตลาดต่างประเทศ สถาบันไทย-พอร์ตบล.-ต่างชาติร่วมมือกันขายกลุ่มละ 2 พันล้านบาท รายย่อยรับเละ 6,547.59 ล้านบาท ผสมทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามาก กดดัชนีหุ้นร่วง 1.49% แตะ 1,478 จุด บล.โนมูระ วิเคราะห์ FTSE ลดน้ำหนักหุ้นไทยจาก 2.3% สู่ 2.25% เม็ดเงินหายไป 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามรอย MSCI ฉุดตลาด 1 เดือนข้างหน้าขึ้นจำกัด เปิด 10 อันดับหุ้นถูกขายมากสุด
ตลาดหุ้นวันที่ 22 ก.พ.2564 ปิดที่ระดับ 1,478.14 จุด ลดลง 22.37 จุด หรือ -1.49% มูลค่าการซื้อขาย 89,859.24 ล้านบาท สถาบันไทยทิ้ง 2,407.25 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 2,173.64 ล้านบาท และต่างชาติขายสุทธิ 1,966.70 ล้านบาท ด้านนักลงทุนไทยช้อน 6,547.59 ล้านบาท
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน- วิเคราะห์เทคนิค บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไหลลงแรงในช่วงชั่วโมงสุดท้าย พุ่งเป้าหุ้นขนาดกลางและเล็กจำนวนมาก หลังราคาปรับตัวขึ้นไปมา ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ส่วนประเด็นดัชนีฟุตซี่ทบทวนดัชนีล่าสุดนั้นมองตลาดรับรู้ไปก่อนหน้านี้ แต่อาจเป็นไปได้ที่เมื่อหลายปัจจัยมาผสมกัน
สำหรับหุ้นไทยปรับฐานตามตลาดโลก จากความเสี่ยง Global Bond Yield ที่ดีดขึ้นเร็ว นักลงทุนขายทำกำไรหุ้น และตลาดที่พี/อีสูง จากความเสี่ยงการ De-Rating ระยะสั้นแนะนักลงทุนระมัดระวังหุ้นพี/อีสูง ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มโรงไฟฟ้า ผสานหุ้นรายตัวที่มีการใช้ Block Trade สูง ความผันผวนเชิงลบเป็นตัวแปรเร่ง ลดความเสี่ยง
บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า FTSE Rebalance ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว จะมีผลการปรับน้ำหนักวันที่ 19 มี.ค.2564 นี้ พบว่าไม่มีหุ้นไทยเข้า/ออกใหม่ แต่ถูกลดน้ำหนักลง จาก 2.3% สู่ 2.25% คาด 10 อันดับแรกที่จะถูกขายมากที่สุด ได้แก่ PTT, TMB, SCC, CPALL, AOT, SCB, DELTA, ADVANC, BDMS, KBANK-F จะถูกขายราว -11.3 ล้านเหรียญฯ ถึง -3 ล้านเหรียญฯ ต่อบริษัท
“หุ้นไทยถูกลดน้ำหนัก ราว -120 ล้านเหรียญฯ ของ FTSE มีผลวันที่ 19 มี.ค. คล้อยหลัง MSCI ที่จะลดก่อน -41 ล้านเหรียญฯ วันที่ 25 ก.พ. นี้ ทำให้แรงกดดันต่อ เงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้น ถ่วง Upside ตลาดในระยะ 1 เดือนจำกัด” บล.โนมูระ พัฒนสินระบุ
ด้านบล.คิงส์ฟอร์ดประเมินหุ้นถูกกดดัน US.Bond Yield ผันผวน ให้แนวรับดัชนี 1,480-1,493 จุด แนะทยอยซื้อช่วงอ่อนตัว เช่น CRC, CPN, MBK, BTS, BEM ปัจจัยหนุนมาตรการเปิดเศรษฐกิจ และทยอยรับวัคซีนของไทย