ดาวโจนส์ปิดไม่ขยับ 0.98 จุด  ยุโรปปรับตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นศก.

HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ วันที่ 19 ก.พ.  64 ปิดที่ 31,494.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.98 จุด หรือ +0.0031% อ่อนตัวลงจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า นักลงทุนมีความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีการทำกำไรในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ แต่สลับมาลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฎจักรที่จะได้รับผลดีจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่อั้นไว้นานหากการแพร่ระบาดลดลง  ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ลดลง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,906.71 จุด ลดลง 7.26 จุด หรือ -0.19%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,874.46 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด หรือ +0.07%

ดัชนี DJIA ได้ปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของวัน หลังบริษัทเดียร์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ และรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่าในไตรมาสแรก จากอุปสงค์สำหรับเครื่องจักรในการทำฟาร์มและการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น

นักลงทุนบางส่วนวิตกต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทนพันธลัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 1.34%

แบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงมากกว่า 10% เนื่องจากมีการซื้อขายที่ค่าพีอีมาก กว่า 22 เท่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ยุคภาวะฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปลายทศวรรษ 1990

หุ้นกลุ่มวัฎจักรที่จะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจปรับขึ้นนำตลาด โดยกลุ่มวัสดุ พลังงาน และอุตสากรรมเพิ่มขึ้น 1.8%, 1.7%, 1.6% ตามลำดับ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซี ว่า ยังจำแนที่จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนสะท้อนการฟื้นตัว และมาตรการวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จะทำให้กลับไปที่การจ้างงานเต็มที่ภายใน 1 ปี และผลของมาตรการจะมีมากกว่าต้นทุนในการทำมาตรการในระยะยาว นอกจากนี้ยังไม่กังวลต่อเงินเฟ้อมากนักเพราะอยู่ในระดับมากว่าทศวรรษ แม้เป็นความเสี่ยงแต่ธนาคารกลางมีเครื่องมือที่จะดูแล

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า จะพยายามผลักดันมาตรการให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้

ไอเอชเอส มาร์กิต เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่สู่ระดับ 58.8 สูงสุดในรอบ 71 เดือน

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เผย ยอดขายบ้านมือสองเดือนมกราคมพิ่มขึ้น 0.6% มาที่ระดับ 6.69 ล้านยูนิต จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.5% สู่ระดับ 6.61 ล้านยูนิต

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจ และจากความเห็นของ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐที่ว่ายังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

การประชุมกลุ่มประเทศ G-7 แบบออนไลน์เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่า จะวางแนวทางร่นระยะเวลาการพัฒนาวัคซีนลงเป็น 100 วัน

ขณะเดียวกันในเยอรมนีได้ประกาศว่าวัคซีนแอสตราเซเนก้ามีประสิทธิภาพสูงและผลข้างเคียงน้อยและกินเวลาสั้นมา

ไอเอชเอส มาร์กิเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นขึ้นสู่ระดับ 48.1 สูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 47.8 ในเดือนมกราคม

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมของเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาที่ 51.3 จาก 50.8

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 414.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.18 จุด, +0.53%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,624.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.87 จุด, +0.10%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,773.55 จุด เพิ่มขึ้น 45.22 จุด, +0.79%

ดัชนี DAX ปิดที่ 13,993.23 จุด เพิ่มขึ้น 106.30 จุด, +0.77%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.28 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 59.24  ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 62.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล