บลจ.ทิสโก้ชี้กระแสหุ้นเทคฯ ยังแรง ม.ค.เงินไหลเข้าสุทธิ 1.4 หมื่นล.

HoonSmart.com>> บลจ.ทิสโก้ เผยกระแสลงทุนหุ้นเทคโนโลยี นวัตกรรมยังแรงต่อเนื่อง เดือนม.ค.เงินไหลเข้าลงทุนทั้งอุตสาหกรรม 1.44 หมื่นล้านบาท เฮลทธ์แคร์ 1 หมื่นล้านบาท ชูหุ้นเมกะเทรนด์แนวโน้มระยะยาวยังเติบโต แม้ระยะสั้นอาจพักฐาน พร้อมแนะ 2 ธีมลงทุนปีนี้ “หุ้นเทคโนโลยี-หุ้นจีน” มองอัพไซด์มากกว่าหุ้นไทย


นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า กองทุนหุ้นต่างประเทศยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่องจากปี 2563 โดยสิ้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าลงทุนสุทธิ 61,313 ล้านบาท เมื่อเทียบจากทั้งปี 2563 เงินไหลเข้าสุทธิ 106,200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ลงทุนในกองทุนหุ้นทั่วโลก 16,773 ล้านบาทและกองทุนหุ้นจีน 9,650 ล้านบาท

หากแยกรายอุตสาหกรรมเงินไหลเข้าลงทุนสุทธิในกองทุนหุ้นเทคโนโลยีสูงถึง 14,461 ล้านบาท จากทั้งปี 2562 ที่มีจำนวน 17,695 ล้านบาท และเริ่มมีเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นเฮลท์แคร์ 10,634 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาเงินไหลออกสุทธิ 666 ล้านบาท

“กระแสการลงทุนต่างประเทศในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี นวัตกรรมยังแรงมาก ส่งผลให้บลจ.ทิสโก้ มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารธุรกิจกองทุนรวมแตะ 6 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายปี 64 แล้ว”นายสาห์รัช กล่าว

สำหรับเป้าหมายการเติบโตธุรกิจกองทุนรวมของบลจ.ทิสโก้ในปี 2564 ตั้งเป้าไว้ 13% อยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 5.33 หมื่นล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาเติบโต 8% สวนอุตสาหกรรมกองทุนรวมที่ติดลบ 7% โดยกองทุนของบลจ.ทิสโก้ที่เติบโตโดดเด่นมาจากกองทุนหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก จากผลดำเนินงานของกองทุนที่ทำได้ดีและได้รับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ ติดอยู่อันดับกลุ่มบนของอุตสาหกรรม

ด้านผลการดำเนินงานกองทุนเดือนม.ค.2564 กองทุนหุ้นเทคโนโลยี ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี อิควิตี้ (TCHTECH) ผลตอบแทน 11% กองทุนเปิดทิสโก้ Next Generation Internet (TNEXTGEN) ผลตอบแทน 8% กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) ผลตอบแทน 8% กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า สตาร์ พลัส (TCHSTARP) ผลตอบแทน 7% เป็นต้น

นายสาห์รัช กล่าวว่า สำหรับหุ้นไทยปัจจุบันราคาขึ้นมามากจนอัพไซด์ปีนี้เหลือประมาณ 5% เมื่อเทียบตลาดหุ้นต่างประเทศซึ่งมีอัพไซด์มากกว่า ประกอบกับปัจจัยบวกที่สนับสนุนหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ที่ฟันด์โฟลว์ที่ตลาดคาดการณ์ แนวโน้มเงินดอลลาร์แข็งค่า ทำให้เงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย ซึ่งไทยจะได้อานิงส์ไปด้วยช่วยหนุนให้ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 1,600 จุด จึงแนะนำจัดพอร์ตกระจายลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศซึ่งมีอัพไซด์มากกว่า

“ปีนี้เรายังมองหุ้นเป็นขาขึ้น เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว นโยบายผ่อนคลายการเงินทั่วโลกหนุนสภาพคล่องมากเป็นปัจจัยหนุนตลาด วัคซีนและสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ขึ้นมามากก็อาจมีการพักฐาน เพื่อขึ้นต่อ Earning Yield Gap สะท้อนหุ้นยังไม่แพงมาก”นายสาห์รัช กล่าว

สำหรับธีมลงทุนที่แนะนำมี 2 ธีม ได้แก่ หุ้นเฮลธ์แคร์ อินโนเวชั่น ซึ่งแนวโน้มยังเติบโตได้ในระยะยาวเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก โดยกองทุนแนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ Genomic Revolution (TGENOME), กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) , TGHDIGI ธีมที่สอง หุ้นจีน ซึ่งเศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่งคาดการณ์ GDP ปีนี้เติบโต 8% ขณะที่ราคาหุ้นไม่แพงเมื่อเทียบตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยแนะนำกองทุนหุ้นจีน เน้นลงทุนหุ้นเกี่ยวข้องการบริโภคในประเทศ แนะนำกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า A-Shares อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า (TISCOCHA-A) , กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า คอนซูเมอร์ (TCHCON)

นายสาห์รัช กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีนี้ยังคงรักษาการเป็นผู้นำในตลาดต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาเติบโต 12% AUM อยู่ที่ 2.06 แสนล้านบาท ส่วนกองทุนส่วนบุคคลเติบโต 4% อยู่ที่ 5.92 หมื่นล้านบาท ขณะที่ AUM ทั้งสามธุรกิจอยู่ที่ 3.18 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 เติบโต 9.8% จากปี 2563 อยู่ที่ 2.90 แสนล้านบาท

“ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่บลจ.ทิสโก้มีผลดำเนินงานโดดเด่นทั้งการเติบโตของ AUM รายได้และฐานลูกค้า จากจำนวนลูกค้า 4-5 หมื่นราย เติบโต 2 เท่าเป็น 8.5 หมื่นราย และปัจจุบันลูกค้าเปิดบัญชีใหม่ทุกวัน บัญชีออนไลน์มีจำนวนลูกค้า 10,742 รายโตเท่าตัวในช่วง 2 ปีที่เปิดบริการ และปีนี้คาดเติบโตต่อเนื่องจากช่องทางขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้, เอเจ้นท์และช่องทางออนไลน์”นายสาห์รัช กล่าว