KTAM ชี้กองตราสารหนี้ทั่วโลกยังแรง จ่อขาย 3 กองทุนต่อเนื่อง

HoonSmat.com>> บลจ.กรุงไทย ปลื้มผลตอบรับกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก อายุโครงการ 1 ปี ทางเลือกกระจายลงทุนเพิ่มผลตอบแทน เตรียมเปิดขาย 3 กองทุน ประเดิมกอง “กรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y16” IPO 19-25 ก.พ.นี้ รองรับความต้องการลงทุนต่อเนื่อง หลังเปิดขาย 15 กอง ระดมทุนได้กว่า 4.3 หมื่นล้านบาท

ชวินดา หาญรัตนกูล

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก อายุโครงการประมาณ 1 ปี มาแล้ว 15 ซีรีส์ ตั้งแต่เดือนก.ค.2563 ที่ผ่านมา เสียงตอบรับในกองทุนดังกล่าวยังมีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 43,000 ล้านบาท บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนอีก 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y16 ในระหว่างวันที่ 19 – 25 ก.พ.2564 และกองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y17 และ 1Y18 ใน เดือนมี.ค.2564 ตามลำดับ

“นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกกองทุนประเภทดังกล่าวและประสบความสำเร็จในการขายตามเป้าหมายเป็นอย่างดี และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนในกองทุนประเภท Term Fund โดยสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนไปทั่วโลกเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำระยะยาวและสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจปัจจุบัน” นางชวินดา

สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y16 เป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมี นโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับ ที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และหรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภท ตราสารหนี้

อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่า ที่ สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ไม่เกิน 20% ของมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ส่วนที่เหลือ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน ตราสารแห่งหนี้ และหรือ ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด

ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (FX Derivatives) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ

สำหรับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่า 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนของกองทุน KTGF1Y16 คือ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – V (Class C USD Acc) ที่บริหารโดย Invesco บลจ.ระดับโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในเน้นสร้างรายได้ผ่านช่วงเวลาการลงทุนที่กำหนด และคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน (ทั้งนี้ กองทุนไม่ได้รับประกันเงินต้น) รวมถึงมุ่งหมายที่จะบรรลุจุดประสงค์การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ buy-and-maintain ใน ตราสารหนี้สกุลเงิน USD ผ่านการพิจารณาความเสี่ยงเชิงรุก ในระยะเวลาการลงทุน 1 ปีนับจากช่วง Initial Offer Period ไป จนถึงช่วงครบอายุกองทุน ซึ่งมีนโยบายลงทุน ไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD