U ขาดทุน 6.6 พันลบ. ขายที่ดินเพิ่มสภาพคล่อง เพิ่มทุน RO-PP

HoonSmart.com>> “ยู ซิตี้” อ่วมพิษโควิด-19 พลิกขาดทุนปี 63 กว่า 6.6 พันล้านบาท เตรียมขายที่ดิน-หุ้นบริษัทย่อยที่ถือครองที่ดิน รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 377 ล้านบาท นำเงินชำระหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง พร้อมแผนเพิ่มทุน ขายผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนเฉพาะเจาะจง

บริษัท ยู ซิตี้ (U) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.1563 พลิกขาดทุนสุทธิ 6,610.75 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.3242 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,867.35 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.186 บาท ปัจจัยหลักที่ขาดทุนมาจากการลดลงของ EBITDA รวมถึงส่วนแบ่งผลขาดทุนจาการร่วมค้าและค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น จากมาตรฐานการเงินเรื่องสัญญาเช่า (TFRS16)

บริษัทมีรายได้รวมลดลง 46.1% จากปีก่อน เป็น 5,651 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากรายได้ธุรกิจโรงแรมลดลงผลกระทบ COVID-19 และการลดลงของรายได้ธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานและรายได้อื่นๆ

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 97,293.67 ล้านบาท จากทุนเดิม 35,918.66 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 133,212.32 ล้านบาท โดยออกหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 28,998.31 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.20 บาท รวม 92,794.58 ล้านบาท และหุ้นสามัญ 1,405.96 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.20 บาท รวม 4,499.08 ล้านบาท

บริษัทจะจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) จำนวน 28,062.88 ล้านหุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิม และหรือหุ้นบุริมสิทธิเดิมต่อ 3 หุ้นบุริมสิทธ์เพิ่มทุนใหม่ ราคาขาย 0.70 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 1 มี.ค.2564 และจัดสรรให้บุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 935,429,272 หุ้น โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.2564

ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกจำนวน 270.80 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการปรับสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 3 (U-W3) และจำนวน 1,135.16 ล้านหุ้น ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (U-W4)

วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน เพื่อนำไปใช้ชำระหนี้ของบริษัทฯ รวมทั้งนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และนำไปลงทุนในโครงการของบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

คณะกรรมการบริษัทยังได้ให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท และบริษัทย่อย ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ 1) ที่ดินเปล่าของบริษัท เมืองทอง แอสเซ็ทส์ เนื้อที่ 20 ไร่ (ที่ดิน MTA) 2) ที่ดินเปล่าของบริษัท ธนายง ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ เนื้อที่ 87 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา (ที่ดิน TFB) 3) ที่ดินเปล่าของบริษัท สยาม เพจจิ้ง แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 56 ไร่ 1 งาน 76 ตารางวา(ที่ดิน PKA) และ 4) ที่ดินเปล่าทั้งหมดหรือบางส่วนของบริษัท ปราณคีรี แอสเซ็ทส์ จำกัด (PKA) จำนวน 13 แปลง เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 427 ไร่ 3 งาน 34 ตารางวา (ที่ดิน PKA)

ทั้งนี้ U จะจำหน่ายที่ดิน MTA ที่ดิน TFB และ ที่ดิน SPC ในราคาขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 1,133.27 บาท ทั้งนี้ สำหรับที่ดิน PKA บริษัทอาจพิจารณาจำหน่ายราคาขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 1,770.74 บาท หรืออาจพิจารณาขายหุ้นใน PKA จำนวน 3.11 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และภาระหนี้เงินกู้ที่ PKA มีต่อบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะคำนวณราคาขายหุ้น PKA ตามราคาที่ดินที่ PKA ถืออยู่

สำหรับมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนของธุรกรรมการจำหน่ายทรัพย์สินเพิ่มเติมในกรณีที่ PKA ขายที่ดินทั้งหมด หรือบริษัทฯ จำหน่ายหุ้น PKA โดย PKA ยังคงถือที่ดินทั้งหมด จะไม่ต่ำกว่า 377.57 บาท บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินในครั้งนี้ไปใช้ในการชำระหนี้ของบริษัทฯ รวมทั้งนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และนำไปลงทุนในโครงการของบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทรัพย์สินของบริษัทฯ และคาดว่าจะส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนทางบัญชีจากธุรกรรมการจำหน่ายทรัพย์สิน 4,302.14 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัท จึงเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 31 มี.ค.2564

อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเมื่อใดและอย่างไร

ดังนั้น เพื่อช่วยให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงิน และทำให้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนในการชำระหนี้ของบริษัทฯ รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป อีกทั้งทรัพย์สินที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีผลประกอบการขาดทุน หรือเป็นทรัพย์สินที่ต้องใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงอีกเป็นจำนวนมากในอนาคตอันใกล้ดังนั้น การจำหน่ายทรัพย์สินออกไปจึงเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ