ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 27 จุด คาดเศรษฐกิจขยายตัว

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวกจากแรงซื้อกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และวัสดุก่อสร้าง  คาดเศรษฐกิกำลังเข้าสู่การขยายตัว การฉีดวัคซีนที่กระจายวงมากขึ้น ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ปิดที่ 31,458.40 จุด เพิ่มขึ้น 27.70 จุด หรือ 0.1% หลังจากเคลื่อนไหวในช่วงแคบท่ามกลางแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และวัสดุก่อสร้าง จากคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ และแรงขายหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ขณะที่ยังรอความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ เนื่องในวันประธานาธิบดี

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,934.83 จุด เพิ่มขึ้น 18.45 จุด, +0.47%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,095.47 จุด เพิ่มขึ้น 69.70 จุด, +0.50%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.2% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.7%

หุ้นกลุ่มวัฎจักรและหุ้นที่มีราคาต่ำนำตลาดจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจที่กำลังจะเข้าสู่การเติบโต เนื่องจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะมีผล รวมทั้งการฉีดวัคซีนที่กระจายวงมากขึ้น และการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ลดลงมาก มีส่วนหนุนตลาด ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่าสหรัฐฯได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนเพิ่มอีกจากไฟเซอร์และโมเดอร์นารายละ 100 ล้านโดส ส่งผลให้โดยรวมสหรัฐมีวัคซีน 600 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 300 ล้านคนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม

นักลงทุนยังขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีเกินคาด แต่หุ้นดิสนีย์ลดลง 1.7% แม้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมากกว่าคาดมาที่ 76.2 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จาก 79 ในเดือนมกราคม เพราะครัวเรือนยังกังวลต่อเศรษฐกิจแม้คาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์สพบว่า เศรษฐกิจคาดว่าจะกลับไปที่ระดับก่อนโควิดภายใน 1 ปี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ แต่จะใช้เวลามากกว่า 1 ปี ที่จะกลับไปสู่การจ้างงานเต็มที่

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสื่อเพิ่มขึ้น 1.5% และกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ความคืบหน้าการฉีดวัคซีน และผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน

ข้อมูลอย่างเป็นทางการเศรษฐกิจปี 2020 ลดลง 9.9% เป็นการลดลงรายปีมากที่สุด นับตั้งแต่มีการจัดทำในระบบใหม่ แม้ไตรมาสสุดท้ายของปี GDP จะขยายตัว 1% และมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่

ธนาคารกลางรัสเซียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% หลังจากที่เงินเฟ้อสูงขึ้นบ่งชี้ว่าการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอาจจะสิ้นสุดลง นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศในการให้สัมภาษณ์ส่งสัญญาณว่า รัสเซียจะตัดความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป เป็นผลจากความตึงเครียดที่สูงขึ้น

หุ้นไอเอ็นจี เนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 6.7% จากกำไรไตรมาสสี่ที่แข็งแกร่งกว่าคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 414.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.65 จุด, +0.64%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,589.79 จุด เพิ่มขึ้น 61.07 จุด, +0.94%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,703.67 จุด เพิ่มขึ้น 33.85 จุด, +0.60%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,049.89 จุด เพิ่มขึ้น 8.98 จุด, +0.064%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 59.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 62.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล