HoonSmart.com>> “โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล” เคาะราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่ 9.00 บาท หลังสำรวจความต้องการนักลงทุนสถาบันจองซื้อเกิน 20 เท่าจากจำวนหุ้นจัดสรร ฟากรายย่อยตอบรับคึกคัก คาดหุ้นเข้าเทรด 19 ก.พ.นี้ ด้าน CEO ลั่นเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมความงามและสุขภาพของเอเชีย ตั้งเป้ายอดขายปี 67 เติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 8.50-9.00 บาทต่อหุ้น โดยเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 5 และ 8-9 ก.พ.2564 ที่ราคา 9.00 บาทต่อหุ้นซึ่งเป็นราคาเสนอขายสูงสุด พร้อมทำการสำรวจความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสนใจซื้อจากราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ที่ราคา 9.00 บาท มากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรกว่า 20 เท่า และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 ก.พ.2564
“ราคา IPO ของ KISS ที่ 9.00 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นรวมถึงโอกาสเติบโตจากการรุกขยายธุรกิจในอนาคต ด้วยการนำจุดแข็งด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองให้ครอบคลุมกลุ่มความงามและสุขภาพ เพื่อขยายไปสู่ช่องทาง Direct-to-Consumer (D2C) ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงเป็นบริษัท Asset Light ที่พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้เอื้อต่อการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมสำหรับตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ อีกทั้งยังมีความได้เปรียบในเชิงประสิทธิภาพของนวัตกรรมและต้นทุนจากการมีเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ส่งผลให้ KISS สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน” น.ส.วีณา กล่าว
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพของเอเชีย หรือ True Health and Beauty Company โดยตั้งเป้าหมายมีรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี นับจากปี 2562 จากแผนขยายการลงทุน ประกอบด้วย
1.พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rojukiss, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ใหม่ Wonder Herb นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งการทำวิจัยตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภค พร้อมพัฒนาสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
2.ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภค (Direct-to-consumer: D2C) ที่ช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการความสะดวกสบายด้วยการซื้อผ่านช่องทางโดยตรงกับแบรนด์ โดย ร่วมมือกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2564 โดย KISS ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
3.ลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศ ใน 2 ประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะการเติบโตของช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีความรู้ความสามารถในการจัดจำหน่ายและทำการตลาดแบบ Omni-channel ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในอินโดนีเซีย นอกจากนี้จะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศเวียดนาม
4.ลงทุนในการพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง พร้อมพัฒนา Mobile Skin Analysis เพื่อเป็นเครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิว ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวตามคำแนะนำผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce ได้ทันที คาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2564 ก่อนจะขยายการให้บริการไปยังประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามอีกด้วย