ดาวโจนส์ปิดบวก 237 จุด หวังมาตรการหนุนเศรษฐกิจฟื้นเร็ว

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 237 จุด นักลงทุนหวังมาตรการหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว หุ้นกลุ่มพลังงานขึ้นแรงหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ปิดที่ 31,385.76 จุด เพิ่มขึ้น 237.52 จุด หรือ 0.76% เป็นการปิดที่นิวไฮ จากความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ว่าจะทำให้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,915.59 จุด เพิ่มขึ้น 28.76 จุด, +0.74%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,987.64 จุด เพิ่มขึ้น 131.35 จุด, +0.95%

หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 4% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 57.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 60.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพราะจะช่วยให้เศรษฐกิจกลับสู่การจ้างงานเต็มที่ในปี 2022

เมื่อวันศุกร์ทั้งวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านมติแผนงบประมาณแล้ว เป็นการเริ่มกระบวนการการจัดทำงบประมาณแบบ budget reconciliation ที่จะเปิดทางให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน1.9 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านวุฒิสภาที่มีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากได้ โดยในมาตรการมีการแจกเงินจำนวน 1,400 ดอลลาร์ให้ประชาชน และการจัดซื้อวัคซีนและการตรวจหาเชื้อ

หุ้นกลุ่มสายการบินเพิ่มขึ้นหลังจากมีข้อมูลว่าในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบคลุมวงเงิน 14 พันล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือธุรกิจการบิน โดยหุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 3.4% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 5.2% หุ้นเดลต้าแอร์ไลน์ 5.1%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน โดยจนถึงขณะนี้รัฐบาลได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว 32,780,860 โดส ขณะที่แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงโดยเฉลี่ย

ประธานาธิบดีไบเดนตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายใน 100 วันแรกของการเข้าทำหน้าที่ แต่เตือนว่าเป็นการยากที่จะสร้างภูมิคุ้มหมู่ภายในหน้าร้อนนี้

ราคาบิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 44,000 ดอลลาร์ หลังจากเทสลาได้ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่า บริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกระจายการลงทุน และยอมรับบิตคอยน์ในการชำระเงินค่าซื้อรถและสินค้าอื่นของบริษัทหุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 1.31%

ด้านบริษัทจดทะเบียนรายงงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4 มากกว่าครึ่ง โดยมี 294 บริษัทที่แจ้งมาแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ 83% มีผลประกอบการที่ดีกว่าคาด นักวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4 โดยรวมจะเติบโต 2.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แทนที่จะติดลบ 10.3% จากที่ประเมินก่อนหน้า

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยตลาดหุ้นอิตาลีหลังจากนายมาริโอ ดรากี อดีตประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรปได้รับเสียงสนับสนุนจากสองพรรคใหญ่ให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ และยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก แม้นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้นไดอาล็อก เซมิคอนดักเตอร์ บริษัทออกแบบชิปของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 16% หลังบริษัทรีนีแซส อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ผู้ผลิตชิปของญี่ปุ่นตกลงที่จะซื้อกิจการ เป็นเงินสดมูลค่า 4.9 พันล้านยูโร (5.9 พันล้านดอลลาร์)

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 410.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.24 จุด, +0.30%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,523.53 จุด เพิ่มขึ้น 34.20 จุด, +0.53%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,686.03 จุด เพิ่มขึ้น 26.77 จุด, +0.47%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ ที่ 14,059.91 จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด, +0.023%

 
 
อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2% เบรนท์ทะลุ 60 เหรียญสหรัฐฯ