TQR เคาะราคาขาย IPO ที่ 5.10 บาท เปิดจอง 9-11 ก.พ. P/E 14 เท่า

HoonSmart.com>>“ที คิว อาร์” เตรียมขาย IPO  60 ล้านหุ้น ราคา 5.10 บาท  เปิดจอง 9-11 ก.พ.64 แบ่งให้สถาบัน  25% รายย่อย 75% คาดเข้าเทรด mai วันแรก 17 ก.พ.นี้  ระดมเงิน 306 ล้านบาท พัฒนาเทคโนโลยี-พัฒนาแบบจำลองทางการเงิน-ใช้เป็นเงินลงทุนรองรับการขยายธุรกิจ มั่นใจอนาคตธุรกิจประกันภัยยังสดใส เสนอผลิตภัณฑ์ใหม่  ช่วยพันธมิตรพัฒนาต่อยอด โชว์ผลงาน 9 เดือนของปี 63  มีรายได้ 160.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.39% ส่วนกำไรสุทธิ 68.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.54% 

น.ส.พันทิตา แซ่เอ็ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ  เทียบเท่ากับสัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิล่วงหน้า 12 เดือน (Forward P/E) ที่ 14 เท่า

ทั้งนี้กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ ในวันที่ 9-11 ก.พ. 2564 และมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีกราย คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ในกลุ่มธุรกิจการเงิน

“ การขายหุ้นที่ 5.10 บาทต่อหุ้น สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ TQR บริษัทไม่มีภาระะหนี้สิน และความสามารถในการทำกำไรสูง มีอัตรากำไรสุทธิที่ 33-42% ในปี 2562  แนวโน้มธุรกิจที่จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต สอดรับกับ New Normal   จากการโรดโชว์ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก โดย 60 ล้านหุ้น จะแบ่งให้นักลงทุนสถาบัน 25% และนักลงทุนรายย่อยอีก 75% มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” น.ส.พันทิตากล่าว

ด้านนายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ การลงทุนพัฒนาแบบจำลองทางการเงิน  สำหรับธุรกิจการประกันภัย รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนอื่น ๆ  เพื่อ รองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต

“ บริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากระดมทุนและเข้าตลาดหลักทรัพย์  เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น มีฐานทุนที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และด้วยแนวโน้มของธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต จากความต้องการด้านการประกันภัยต่อสูงขึ้น จึงมั่นใจว่า TQR จะเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นได้และเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง” นายชนะพันธุ์ กล่าว

สำหรับการที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ “กลุ่มพรรณนิภา” ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของกันและกัน ที่ผ่านมากลุ่มผู้ถือหุ้นได้เพิ่มทุน  เพื่อเสริมฐานเงินทุนในการขยายธุรกิจในอนาคต  เพิ่มความสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปในรูปแบบใหม่ ซึ่งภัยต่างๆก็มีรูปแบบใหม่ๆเข้ามามาก อาทิ ยกเลิกจัดโอลิมปิก ภัยทางดิจิทัลต่างๆ จะเห็นได้ว่ายังมีช่องทางในการพัฒนาประกันภัยใหม่ๆอยู่อีกมาก บริษัทฯมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปช่วยพัฒนาและสร้างการเติบโตคู่กับพันธมิตร

ด้านรายได้หลักจะมาจากจำนวนสัญญาประกันภัยและดอกเบี้ยประกันภัย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสามารถตอบสนองความต้องการของบริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อในการจัดหาสัญญาประกันภัยต่อที่เหมาะสมได้ สอดคล้องกับจำนวนสัญญาประกันภัยต่อที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ปัจจุบันสัดส่วนงานประกันภัยในต่างประเทศประมาณ 80% และในประเทศอีก 20% มีการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายเป็นอย่างดี จึงทำให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานในปี 2560-2562 มีรายได้รวม 104.96 ล้านบาท , 153.75 ล้านบาท และ 132.49 ล้านบาท ตามลำดับ  และ9 เดือนปี2563 รายได้รวมจำนวน 160.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) ส่วนกำไรสุทธิสำหรับปี 2560 – 2562 ทำได้จำนวน 23.62 ล้านบาท , 32.88 ล้านบาท และ 44.04 ล้านบาทตามลำดับ  และงวด 9 เดือนของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 68.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.22 ล้านบาท