HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้แนะนำถือ ” บี.กริม เพาเวอร์” อัพไซด์กำไรที่เพิ่มขึ้นได้จะมาจากการควบรวมธุรกิจ ขณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้าเชิงอุตสาหกรรมต่ำลง
บล. ทิสโก้ปรับคำแนะนำหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) จาก”ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยเพิ่มมูลค่าเหมาะสมอีก 4 บาท เป็น 52 บาท/หุ้น จากโอกาสที่ส่วนแบ่งในตลาดอุตสาหกรรมไฟฟ้าอาจเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวอีก 500 ล้านวัตต์ ขณะเดียวกันลดประมาณการกำไรของปี 2563-2565 ลง 3-8% เนื่องจากรวมการประเมินกำไรในไตรมาสที่ 4/2563 และสมมติฐานกำไรจากผู้ใช้ไฟฟ้าเชิงอุตสาหกรรมที่ต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น
“เราประเมินมูลค่าของ BGRIM โดยคำนึงถึงการเติบโตและทิศทางกำไรเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นอัพไซด์ที่เพิ่มขึ้นได้จะมาจากปัจจัยการควบรวมธุรกิจมากกว่า เราประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วย DCF โดย 48 บาทมาจากโครงการในมือและ 4 บาท มาจากโอกาสในการขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมในระยะยาว (ด้วยสมมติฐานอุปสงค์ใหม่ 500 ล้านวัตต์ และ IRR equity 22%)”
อย่างไรก็ตาม ความหวังกำไรขยายตัวริบหรี่เราไม่เห็นทิศทางราคาวัตถุดิบที่ลดลง หรือราคาพลังงานที่สูงขึ้นในช่วง 12 เดือนของ BGRIM คาดราคาน้ำมันดิบจะเริ่มปรับตัวขึ้นสะท้อนจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นในช่วง เม.ย. 2564 อาจปรับราคามากกว่านี้ในช่วง ต.ค. ในเวลาเดียวกัน เรามองว่ารัฐบาลมีแนวโน้มต่ำในการจะปรับค่าไฟขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงมีทิศทางอ่อนแอ
การเพิ่มฐานลูกค้าจากส่วนแบ่งในตลาดที่สูงขึ้น และอุปสงค์พื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ๆ แสดงให้เห็นถึงโอกาสระยะยาวของ BGRIM ราคาวัตถุดิบที่ถูกลงจาก LNG เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขยายตลาดภายในประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายไฟฟ้าให้กับ EGAT ทำให้ทาง BGRIM จะสามารถคิดราคาไฟฟ้าได้สูงกว่านี้ ทั้งนี้ BGRIM จะสามารถมี economies of scale จากการนำเข้า LNG ได้ ก็ต่อเมื่อกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นเริ่มเข้าตลาดในช่วง 2566 ด้วยการขยายตัวของพื้นที่อุตสาหกรรมในไทยค่อนข้างช้าลง และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีก 2-3 ปี