เมื่อเม่าผงาด

HoonSmart.com>>จริงๆ แล้ว ในช่วงที่สหรัฐมีประธานาธิบดีคนใหม่ หุ้นในวอลล์สตรีทมักจะขึ้น

แต่ตั้งแต่ก่อน โจ ไบเดน จะสาบานตน หุ้นสหรัฐก็แกว่งลงๆ แม้ว่า วันสาบานตน เหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่หุ้นก็กลับไม่ขึ้น

ผมเพิ่งค้นพบสาเหตุว่า มาจากหุ้นตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่า GameStop

บริษัทนี้ เป็นบริษัทขายวิดีโอเกมส์ ซึ่งถูกมองว่า เป็นธุรกิจที่หมดอนาคตแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ คนเล่นเกมส์ออนไลน์กันหมดแล้ว และบริษัทคนทำเกมส์ออนไลน์ก็มีนับไม่ถ้วน

แต่ตอนก่อนสิ้นปี บริษัทได้ตั้งประธานคนใหม่ ซึ่งประกาศวิสัยทัศน์ว่า จะทำให้บริษัทเป็น Amazon แห่งเกมส์ออนไลน์

วิสัยทัศน์นี้ เป็นที่ถูกใจนักลงทุนที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์มาก จึงเข้ามาซื้อหุ้นบริษัทนี้กันใหญ่ จนราคาขึ้นจากไม่ถึง 20 ดอลลาร์ ไปถึงเกือบ 200 ดอลลาร์ ประมาณ 10 เท่า

นักลงทุนรายใหญ่ และสถาบันมองเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เหมือน “ฉลามได้กลิ่นเลือด” มองว่า มันเป็นฟองสบู่ชัดๆ และฟองสบู่ก็ใกล้แตกแล้ว จึงเข้ามา short กันยกใหญ่ เพื่อทุบให้หุ้นลง

แต่ผิดคาด หุ้นกลับไม่ลง พวกนักวิเคราะห์รับจ้างก็ออกมาวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้นตัวนี้ มันเกินพื้นฐานไปมหาศาล และราคากำลังจะดิ่งเหว และพวกกองทุนและรายใหญ่ก็ยิ่ง short หนักขึ้น

การรุมของพวกรายใหญ่ กองทุน และนักวิเคราะห์ ทำให้ชาวเม่าสหรัฐเดือด จึงพากันตอบโต้ เขียนในโซเชียลประกาศสงครามกับพวกฉลาม โดยการไม่ยอมขายหุ้นที่ซื้อเก็บไว้

เผอิญหุ้นตัวนี้ free float น้อยมาก (คุ้นๆ มั้ย) ทำให้พวกรายใหญ่หาซื้อหุ้นมาคืนหุ้นที่ short ไว้ยาก แต่ก็ต้องหาหุ้นมาคืน จึงต้องกัดฟันสู้ราคา จนราคาหุ้นขึ้นไปถึงเกือบ 400 ดอลลาร์

เรียกว่า แทนที่รายใหญ่กับกองทุนจะทำกำไร กลับขาดทุนมหาศาลเป็น 100%

เมื่อเป็นเช่นนี้ รายใหญ่กับกองทุน ก็ถูกบังคับให้ต้องขายหุ้นตัวอื่น เพื่อเอาเงินมาซื้อหุ้น GameStop ไปชดใช้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก ลามถึงหุ้นเอเชียและไทยด้วย

งานนี้ ทำให้เม่ากำไรเละ

และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 คนของ GameStop อยู่เฉยๆ ส้มทองคำก็หล่นใส่เท้า เจียดเอาเศษหุ้นออกมาขายให้กองทุน ก็ฟันกำไรไปแล้วกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6 หมื่นล้านบาท

ก่อนสิ้นปีก่อน ต่อให้ขายหุ้นจนหมดพอร์ต นั่งได้เงินไม่ถึงพันล้านบาทเลย

ผลที่เกิดขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปั่นป่วนและเพี้ยนไปพอสมควร

แต่ของไทยเรา มันตรงข้าม โดยรายใหญ่หลอกให้เม่าเข้ามาซื้อ แล้วก็ทุบ