HoonSmart.com>>”ปูนซิเมนต์ไทย”โชว์ผลงานชนะโควิด ปี2563 โกยกำไร 34,143 ล้านบาท โต 7% สวนทางรายได้จากการขาย ลด 9% เฉพาะไตรมาส 4 ได้กำไร 8,048 ล้านบาท น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ปีก่อนใช้งบลงทุน 58,308 ล้านบาท ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 65,000 – 75,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้โครงการปิโตรเคมีในเวียดนาม บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 8.50 บาท สูงถึง 57% ของกำไร คิดเป็นผลตอบแทน 2.16%
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดผลการดำเนินงานประจำปี 2563 มีกำไรสุทธิ 34,143.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากที่มีกำไรสุทธิ 32,014.28 ล้านบาทในปีก่อน
โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 399,939 ล้านบาท ลดลง 9% จากราคาและปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง
ส่วนผลงานเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.28% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 17% จากไตรมาสก่อน EBITDA เท่ากับ 18,300 ล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างลดลง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 รวมถึงฝนตกหนักและน้ำท่วมในภูมิภาค ประกอบกับมีขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของธุรกิจซีเมนต์ในประเทศเมียนมาและอินโดนีเซีย ขณะที่รายได้จากการขายเท่ากับ 97,250 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ก่อนหน้านี้ บล.เอเซียพลัส คาดว่าไตรมาส 4/2563 SCC จะมีกำไรสุทธิ 8,816 ล้านบาท และบล.หยวนต้าฯคาดไว้ 8,919 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรจะเติบโตระยะยาว ปี 2564-2566
ในปี 2563 บริษัทมีรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนทั้งสิ้น 58,308 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการลงทุนธุรกิจเคมิคอลส์ 66% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง16% ธุรกิจ
แพคเกจจิ้ง 14% และ อื่น ๆ 4% ส่วนในปี 2564 คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนประมาณ 65,000 – 75,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างโครงการปิโตรเคมีในประเทศเวียดนาม รวมถึงโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและซ่อมบำรุงต่างๆ
ส่วนโรงงานสาธิตสำหรับการรีไซเคิลพลาสติกผ่านกระบวนการรีไซเคิลทางเคมี(Chemical Recycling) แล้วเสร็จ สามารถผลิต Renewable Feedstock โดยใช้พลาสติกใช้แล้วเป็นวัตถุดิบ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว มีกำลังการผลิต 4,000 ตันต่อปี ซึ่งจะนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ของบริษัทต่อไป
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับกำไรงวดครึ่งหลังปี 2563 ในอัตรา 8.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 57% ของกำไร กำหนดแจกให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อวันที่ 9 เม.ย. และขึ้น XD วันที่ 8 เม.ย. กำหนดจ่ายเงินวันที่ 23 เม.ย. 2564 ทั้งนี้เงินปันผล 8.50 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.16% เทียบกับราคาปิดที่ 392 บาท ณ วันที่ 27 ม.ค. 2563
สำหรับเงินปันผลทั้งปี 2563 บริษัทจ่ายทั้งหมด 14 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 16,800 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรก 5.50 บาท และงวดนี้ 8.50 บาท ขณะที่ปี 2562 จ่ายเงินปันผลรวม 14 บาทต่อหุ้น