หุ้นปิดบวก 11 จุด DELTA-KTC ดันตลาด ต่างชาติขาย 2.4 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 11.21 จุด แรงหนุนหุ้น DELTA-KTC ดันดัชนีประมาณ 6-7 จุด กลุ่มแบงก์รีบาวด์ ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ปัจจัยหนุนนโยบายโจ ไบเดน เปลี่ยนใช้รถ EV ด้านนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.4 พันล้านบาท แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งตัว Sideways แนวรับ 1,490-1,500 จุด และแนวต้าน 1,520-1,530 จุด ติดตามการประชุม FED รายงานกำไรบจ.นี้

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 26 ม.ค. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,512.83 จุด +11.21 จุด หรือ +0.75% มูลค่าการซื้อขาย 87,825.28 ล้านบาท

นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,494.02 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,361.97 ล้านบาท ด้านนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,444.20 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,411.79 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดี ในช่วงภาคบ่าย โดยไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ แต่ที่ปรับขึ้นมาเพราะหุ้นที่มี Free Float ต่ำ อาทิ DELTA KTC ที่ปรับขึ้น ดันดัชนีขึ้นประมาณ 6-7 จุด ส่วนกลุ่มแบงก์ก็รีบาวด์กลับมา และกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับขึ้ย จากนโยบายของโจ ไบเดน ที่จะเปลี่ยนรถยนต์ของภาครัฐทั้งหมด ไปใช้เป็นรถยนต์ EV แทน รวมถึงกำไรหุ้นโรงไฟฟ้าเติบโตดีด้วย

ส่วนแนวโน้มของ SET Index ในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.64) คาดว่าตลาดจะแกว่งตัว Sideways ให้แนวรับที่ 1,490-1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,520-1,530 จุด โดยแนะนำหุ้นเด่นในกลุ่ม โรงพยาบาล ให้ CHG กลุ่มธนาคารให้ KKP และSCB กลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้าให้ ESSO ,EA ,GPSC ,GULF และ BGRIM

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประชุม FED และการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

EA ปิดที่ 68.75 บาท +4.00 หรือ +6.18% มูลค่าการซื้อขาย 5,109.10 ล้านบาท
SCGP ปิดที่ 46.75 บาท -2.25 หรือ -4.59% มูลค่าการซื้อขาย 4,312.68 ล้านบาท
KTC ปิดที่ 68.25 บาท +4.25 หรือ +6.64% มูลค่าการซื้อขาย 2,967.10 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 127.50 บาท +1.00 หรือ +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 2,790.82 ล้านบาท
CBG ปิดที่ 144.50 บาท -4.00 หรือ -2.69% มูลค่าการซื้อขาย 2,776.98 ล้านบาท