บล.เคจีไอ แนะ “ซื้อ” CWT เป้า 4.26 บาท รับเบาะหนังรถยนต์ฟื้นแรง

HoonSmart.com>> บล.เคจีไอ แนะ “ซื้อ” CWT เข้าพอร์ต ราคาเป้าหมาย 4.26 บาทรับเบาะหนังรถยต์ฟื้นแรง Upside จากธุรกิจโลกใหม่หนุน

บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) ราคาเป้าหมาย 4.26 บาท ประเมินแนวโน้มธุรกิจโรงฟอกหนังเริ่มฟื้นตัวเด่นใน 4Q63 และคาดจะต่อเนื่องใน 1H64 เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นจาก 1) คำสั่งซื้อจากธุรกิจรถยนต์เริ่มฟื้นตัว โดยยอดผลิตรถยนต์ใน 4Q63 เริ่มฟื้นตัว +30% QoQ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดยอดผลิตรถยนต์ปี 2564 จะกลับมาบวกได้ราว +5% YoY 2) ราคาต้นทุนหนังสัตว์ปรับลงแรงในปี 2563 และแนวโน้มยังต่ำต่อเนื่องใน 1H64 เนื่องจากดีมานด์สินค้าฟุ่มเฟือยที่ลดลงไปมากทั่วโลกจากวิกฤตโควิด-19

3) ค่าเงินบาทแข็งค่า เนื่องจาก CWT นำเข้าหนังโคคิดเป็นราว 98% ของปริมาณหนังโคที่ใช้ทั้งหมด (ข้อมูลปี 2562) ขณะที่รายรับเป็นการขายในประเทศไทยมากกว่า 90% KGI ประเมินอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจนี้ไว้ที่ราว 22% และคาดกำไรสุทธิจากธุรกิจโรงฟอกหนังจะเร่งตัวขึ้น +150% YoY เป็น 99 ล้านบาทในปี 2564

ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้ายังไปได้ดี และมีลุ้นได้เพิ่ม CWT มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ลงไว้ และสร้างรายได้ในขณะนี้อยู่ 2 แห่งได้แก่ 1) โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิตไฟฟ้า 5MW โดย CWT ถือหุ้น 60% โดยโครงการนี้เป็นโครงการโซลาร์สหกรณ์ 2) โรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9MW โดย CWT ถือหุ้นในโครงการนี้ 100% ทั้งนี้ CWT ได้เริ่มลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน เพื่อเตรียมต่อยอดไปยังการขอใบอนุญาติโรงไฟฟ้าขยะชุมชน แต่เนื่องจากสถานะในปัจจุบันยังไม่ได้รับพิจารณาเป็นโครงการโรงไฟฟ้าขยะ KGI จึงยังไม่รวมในประมาณการฯ และจะเป็น Upside ในอนาคตหากโครงการนี้ได้ PPA

นอกจากนี้ CWT ลงทุนใน บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น (Sakun C) ในสัดส่วน 49.99% เป็นธุรกิจผลิตเรือและรถยนต์ โดยในปัจจุบันการผลิตเรือมีพันธมิตรที่สำคัญคือ BANPU ที่เป็นผู้สั่งต่อเรือไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่ของพันธมิตรของBANPU และได้เริ่มทำการส่งมอบเรือ EV ให้กับทาง BANPU ไปแล้วบางส่วน สำหรับรถโดยสาร คาดว่าจะเริ่มทดลองและส่งมอบได้ใน 2H64 โดยเราคาดว่าจะเป็นการส่งมอบรถโดยสารประเภทรถมินิบัส (ทดแทนรถตู้โดยสาร) สำหรับธุรกิจ Sakun C คาดว่าในปีนี้น่าจะเริ่ม Break-even ได้ ซึ่งธุรกิจ Sakun C แม้ในปัจจุบันจะยังถ่วงผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ แต่คาดว่าจะเป็น Upside ในอนาคต หากธุรกิจ EV ในประเทศไทยเติบโต

อย่างไรก็ดี KGI ประเมินว่าจากศักยภาพฐานเงินทุนในปัจจุบัน (ส่วนของผู้ถือหุ้นราว ?100 ล้านบาท และ DE ratio เกือบ 3 เท่า) Sakun C จำเป็นต้องมีเงินลงทุนจากพันธมิตรเพิ่มเติมหากต้องการที่จะผลิตและส่งมอบรถบัสในปริมาณที่เกิน 100 คันต่อปีขึ้นไป

บล.ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 4.26 บาท/หุ้น อิงวิธี Sum of the parts โดย i) ธุรกิจโรงฟอกหนังมูลค่า 3.3 บาท ประเมินราคาโดยใช้เป้าหมาย PE ที่ 21 เท่า อิงจาก +1.0 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ PE ในอดีตของ IHL (เนื่องจากโครงสร้างรายได้ของ CWT ที่มีธุรกิจอื่น จึงใช้ PE ในอดีตของ IHL เป็นตัวเทียบเคียงสำหรับธุรกิจนี้) ii) ธุรกิจโรงไฟฟ้า มูลค่ารวม 0.88 บาท อิง WACC 5.4% และ iii) ธุรกิจ Sakun C ประเมินมูลค่า 0.07 บาท อิงมูลค่าทางบัญชีของบริษัท Sakun C (PBV 1 เท่า)

สำหรับปัจจัยเสี่ยง อยู่ที่ 1) ความผันผวนของต้นทุนโรงฟอกหนัง ทั้งต้นทุนหนังสัตว์ และค่าเงินบาท และ 2) นโยบายภาครัฐฯ ที่จะสนับสนุนธุรกิจรถ EV

ด้านหุ้น CWT ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ 3.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ +7.19% มูลค่าการซื้อขาย 44.94 ล้านบาท