ส่องกำไร SCC สดใสอีกยาว ราคาวิ่งไกลกว่า 400 บาท

HoonSmart.com>>”ปูนซิเมนต์ไทย” ใกล้ถึงคิวเปิดผลงานไตรมาส 4 บล.เอเซียพลัสคาดกวาดกำไรกว่า 8 พันล้านบาท ได้มาร์จิ้นปิโตรเคมีหนุน บล.หยวนต้าเล็งปรับประมาณการปี 63 ขึ้น 6% เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท คาดปันผลครึ่งปีหลัง 8.50 บาท ผลตอบแทนเกิน 2% มองผลงานโดดเด่นถึงปี 66 บล.ฟินันเซียฯแถมแรงหนุนจากปรับเกณฑ์ฟรีโฟลทด้วย บล.บัวหลวงลั่นราคาวิ่งจากพื้นฐานปีนี้กำไร 4.1 หมื่นล้านบาท

ในสัปดาห์นี้ถึงเวลาที่หุ้นขนาดใหญ่จะเริ่มรายงานผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 4 และปี 2563 โดยบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC) จะเปิดเผยข้อมูลวันที่ 28 ม.ค.นี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายสูงกว่า 400 บาท บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ให้ราคาสูงสุดถึง 500 บาท และบล.ทิสโก้ ให้ต่ำที่สุด 396 บาท แนะเพียง “ถือ”

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดว่า SCC จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/63 ที่ 8,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน MOC ซึ่งเป็นปิโตรเคมีต้นน้ำ ทำให้รายได้รวมลดลง 13% แต่ส่วนต่างราคา (สเปรด)ผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับกำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวจากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน รวมถึงกลยุทธ์ลดต้นทุนช่วยเพิ่มอัตรากำไร ทำให้ภาพรวมยังเติบโต แม้ความต้องการของธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จะชะลอตัวก็ตาม

” ให้ราคาเป้าหมาย SCC ที่ 450 บาท กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในช่วงหลายปีข้างหน้า และยังได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้าเริ่มกลับมาซื้อหุ้น SCC อีกครั้ง จะเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น” บล.เอเซีย พลัสระบุ

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดราคาเป้าหมาย 440 บาท ไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิ 8,919 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 25.5% จากไตรมาส 4/2562 สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรปิโตรเคมีสูงกว่าที่คาด และการปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมี 45 วันน้อยกว่าที่คาด  หากกำไรออกมาตามคาด จะมีการปรับประมาณการปี 63 ขึ้น 6% เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท โต 9% แต่คงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%  จากสมมุติฐานสะท้อนส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวได้ดีในปัจจุบัน และสัดส่วนการถือหุ้น SCGP

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/64  ผลการดำเนินงานจะอยู่ในเกณฑ์ดี อุปสงค์วัสดุก่อสร้างที่ฟื้นตัวตามฤดูกาล โรงงานปิโตรเคมีกลับมาผลิตปกติหลังหยุดซ่อมบำรุงใหญ่

มองข้ามไปปี 2564-2566 หุ้นยังมีหลายปัจจัยเติบโต เช่น การขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีจาก 5 ล้านตันเป็น 8.3 ล้านตัน ภายใต้โครงการ MOC debottleneck 3.5 แสนตัน ช่วงกลางปี 2564 และ Long son 2.95 ล้านตันช่วงกลางปี 2566 และธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีเป้าหมายรายได้โตอีกเท่าตัวภายใน 5 ปี และการปรับแผนธุรกิจวัสดุก่อสร้างเน้นค้าปลีกและโซลูชั่นหนุนอัตรากำไรให้สูงขึ้น

” เราปรับใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ 440 บาท อ้างอิง P/BV 1.6 เท่าเท่าเดิม และราคาหุ้นยัง Laggard นับจากจุดเริ่มต้นของการปรับขึ้นของตลาดตั้งแต่วันที่  30 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมาดัชนีขึ้นมา 29 % และกลุ่มปิโตรเคมี PTTGC,IRPC,IVL เฉลี่ย 70% ขณะที่ SCC เพิ่มขึ้นเพียง 15% ทิศทางกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของกระแสเงินทุนต่างชาติ คาดเงินปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2563 ที่ 8.50 บาท /หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.2% ประเด็บลบจากราคาน้ำมันที่กดดันราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมา เริ่มจำกัดแล้ว เพราะซาอุดีอาระเบียไม่มีความจำเป็นต้องลดกำลังการลิตเพิ่มเติม”บล.หยวนต้าระบุ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ราคาเป้าหมาย  445 บาท ได้ปัจจัยเกณฑ์ที่นำฟรีโฟลทเข้าคำนวณ คาดได้ประโยชน์จากกองทุนปรับพอร์ตเข้าซื้อ ทั้งนี้บริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 46,820 ราย และฟรีโฟลท 66.11% ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้น 9.66%

ขณะที่บล.บัวหลวง มองว่าเกณฑ์ฟรีโฟลทไม่มีผลต่อ SCC ราคาปรับตัวขึ้น เนื่องจากปี 2564 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 41,000 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมาย 460 บาท