ดาวโจนส์ปิดลบ 12 จุด ดัชนี S&P500 ควง Nasdaq ทำนิวไฮ

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 12 จุด สวนทางดัชนี S&P500 ควง Nasdaq ทำนิวไฮ หวังโจ ไบเดน เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ร่วง ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง สวนเบรนท์ขยับขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 21 มกราคม 2564 ปิดที่ 31,176.01 จุด ลดลง 12.37 จุด หรือ 0.04% แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่นิวไฮ นักลงทุนคาดหวังว่าภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะมีการเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานสะท้อนการฟื้นตัวที่อ่อนแอ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,853.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด หรือ +0.03%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,530.91 จุด เพิ่มขึ้น 73.67 จุด หรือ +0.55%

กระทรวงแรงงานเผย ในสัปดาห์ที่แล้วการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกมีจำนวน 900,000 รายลดลง 26,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า แม้จะดีกว่าที่คาด แต่นักวิเคราะห์มองว่า จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

นักลงทุนคาดหวังว่าประธานาธิบดีไบเดนจะสนับสนุนกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากวันแรกของการรับตำแหน่งได้ลงนามเพิ่มในคำสั่งบริหาร 10 ฉบับ ตลอดจนมีแนวทางในการควบคุมการระบาดของไวรัสที่ดีกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะเร่งการผลิตหน้ากาก อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล รวมทั้งจะการเร่งตรวจหาเชื้อและการแจกจ่ายวัคซีน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่แข็งแกร่งในสปัดาห์หน้า โดยหุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้นโดยหุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 3.67% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 2.02% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.22% หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 1.34%

ขณะเดียวกันความตึงเครียดระหว่างบริษัทสหรัฐฯและจีนเริ่มขึ้นอีกครั้ง บริษัทเทเลคอมใหญ่ของจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯขอให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กทบทวนแผนการปลดบริษัทออกจากตลาด นอกจากนี้ทวิตเตอร์ระงับบัญชีของสถานฑูตจีนในสหรัฐฯเพราะฝ่าฝืนหลักสิทธิมนุษยชน

ธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย รายงานดัชนีการผลิตเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นมาที่ 26.5 จาก 9.1 ในเดือนก่อน

กระทรวงพาณิชย์รายงาน การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 5.8% มาที่ระดับ 1.669 ล้านยูนิต จาก 1.547 ล้านยูนิตในเดือนพฤศจิกายน และสูงกว่า 1.560 ล้านยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลดลง 5.73% หลังเปิดเผยการขาดทุนติดต่อกันยาวนานถึง 4 ไตรมาส

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลง 1.3% แต่กลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.6% แม้ธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB )มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมเมื่อวานนี้

ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ตลอดจนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

แต่นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั่วยูโรโซนยังเป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจ และ ECB พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากจำเป็น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 410.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด, +0.012%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,715.42 จุด ลดลง 24.97 จุด, -0.37%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,590.79 จุด ลดลง 37.65 จุด, -0.67%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,906.67 จุด ลดลง 14.70 จุด, -0.11%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 18 เซนต์ปิดที่ 53.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2 เซนต์ปิดที่ 56.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล