HoonSmart.com>> “ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย” กำไรสุทธิปี 63 จำนวน 1,290 ล้านบาท ลดลง 36% จากงวดปีก่อน ตั้งสำรองหนี้พุ่ง 60% รับมือเศรษฐกิจ หนี้สูญ ด้านรายได้การดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1.1% NIM ลดลงอยู่ที่ 3.2% ด้านหนี้เสียลดเหลือ 4.6% จาก 4.7% สิ้นปี 62
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 มีกำไรสุทธิ 1,290.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท ลดลง 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,017.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท
นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 14,927.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.6 ล้านบาท หรือ 1.1% จากงวดปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่น 153.6% ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 5.6% และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง 39.9% กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 12.0% เป็นจำนวน 6,027.8 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ 1.1% ขณะที่ค่าใช้จายการดำเนินงานลดลง 5.1%
อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิลดลง 727.2 ล้านบาท หรือ 36% เมื่อเทียบงวดปีก่อนสาเหตุหลักเกิดจากการสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 60% สะท้อนการตั้งสำรองที่สูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและโอกาสที่คุณภาพสินเชื่อของลูกค้าที่จะแย่ลงจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ในจำนวนนี้ธนาคารได้คำนึงถึงคาดการณ์ล่วงหน้าของโมเดลการวัดมูลค่าผลขาดทุนด้านเครเดิต (ECL) และการตั้งสำรองเพื่อรับมือแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ถดถอยผ่านกระบวนการ management overly ภายใต้มาตรฐานรายรายงานทางการเงินฉบับที่ 9
รายได้จากการดำเนินงานมีจำนวน 14,927.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.6 ล้านบาท หรือ 1.1% จากงวดปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานอื่นจำนวน 1,654.8 ล้านบาท หรือ 153.6% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนจำนวน 1,117 ล้านบาท สุทธิกับการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 834.4 ล้านบาท หรือ 39.9% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการชำระค่าสินค้าและบริการและรายได้จากการเป็นนายหน้าขายประกัน และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจำนวน 652.8 ล้านบาท หรือ 5.6% เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง 478.6 ล้านบาท หรือ 5.1% และมีอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) อยู่ที 3.2% ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 3.5% ผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน
เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 227.0 พันล้านบาท ลดลง 6.2%
ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 10.5 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 4.6% ลดลงจากงวดปีก่อนอยู่ที่ 4.7% สาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2563 ประกอบกับธนาคารมีมาตรฐานกการอนุมัติสินเชือและนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลลูกหนี้และติดตามหนี้
อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 93.3% ลดลงจากงวดปีก่อนอยู่ที่ 99.0% ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.1 พันล้านบาท