กรุงไทยคาดโควิดระลอกใหม่ทุบท่องเที่ยวในปท.สูญกว่า 1.1 แสนลบ.

HoonSmart.com>> Krungthai COMPASS ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ รัฐต้องใช้มาตรการคุมเข้ม ยอดพักโรงแรมต่ำกว่า 10% ทุบท่องเที่ยวในประเทศสูญกว่า 1.1 แสนล้านบาท

Krungthai COMPASS ประเมินสถานการณ์ภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้ในเดือนม.ค.2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยถึงวันละ 348 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วงเดือนเม.ย.ปี 2563 ที่มีน้อยกว่า 45 รายต่อวันโดยเฉลี่ย ซึ่งการระบาดของโรคที่รุนแรงขึ้นมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ผู้คนเกิดความกังวลและลดการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน ขณะที่ภาครัฐต้องใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นขึ้น และส่งผลให้โรงแรมหลายแห่งกำลังประสบกับอัตราการเข้าพักที่ต่ำกว่า 10% ในเดือนนี้

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมหลายรายได้ให้สัมภาษณ์ถึงตัวเลขอัตราการเข้าพักแรม (OR) และการจองโรงแรมที่ลดลงอย่างหนักในเดือนม.ค.2564 หลังจากที่เพิ่งฟื้นตัวจากการล๊อกดาวน์ในช่วงเดือนเม.ย., พ.ค.ปีที่แล้วที่ค่า OR ค่อยๆ ฟื้นตัวจาก 5% มาแตะระดับ 34.8% ในเดือนพ.ย.2563 อย่างไรก็ดี การระบาดครั้งใหม่ทำให้ค่า OR ในจังหวัดท่องเที่ยวหลายจังหวัดกลับมาอยู่ในระดับน้อยกว่า 10% ใกล้เคียงกับช่วงล๊อกดาวน์ในปีที่แล้ว ซึ่งหลายฝ่ายหวังว่าพอคลายมาตรการควบคุมต่างๆ แล้วผู้คนจะกลับมาท่องเที่ยวเหมือนเดิมโดยเร็ว

ด้านนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเลื่อนตลอดจนยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนม.ค.ออกไปก่อน ดัชนีการขอเส้นทางจาก Apple Map แสดงให้เห็นว่า ภายหลังจากวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ การขอเส้นทางจาก Apple Map ในช่วงวันที่ 1-8 ม.ค.2564 หดตัวอย่างรุนแรงคล้ายคลึงกับช่วงที่มีการล๊อกดาวน์ในช่วงเดือนเม.ย.2563 แต่ไม่รุนแรงเท่า

สำหรับการเดินทางทางอากาศก็มีการหดตัวเช่นเดียวกัน โดยเมื่อพิจารณาความต่างระหว่างจำนวนเที่ยวบินที่จะต้องบินตามตาราง กับจำนวนเที่ยวบินที่ทำการบินจริง จะเห็นจำนวนเที่ยวบินที่บินจริงอยู่ต่ำกว่าจำนวนเที่ยวบินตามตารางอย่างมากตั้งแต่มีการระบาดระลอกใหม่ โดยในวันที่ 9 ม.ค.2564 จำนวนเที่ยวบินที่บินจริงน้อยกว่าที่วางแผนไว้ถึง 50%

ด้านข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวหลังจากการคลายล๊อกดาวน์ในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของการระบาดและมาตรการควบคุมไม่ได้เกิดขึ้นเพียงช่วงที่มีการระบาดและการบังคับใช้มาตรการเท่านั้น แต่กว่าที่จำนวน นักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาได้นั้นต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือนสะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากเดือนละไม่ถึง 1 ล้านคนในช่วงล๊อกดาวน์ ขึ้นมาแตะระดับ 4.4 ล้านคน และ 10 ล้านคน เมื่อมาตรการเริ่มผ่อนคลายในเดือนมิ.ย.และก.ค. และแม้ไม่มีมาตรการที่ควบคุมแล้วก็ตาม แต่ในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค.2563 จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่ระดับ 11-13 ล้านคนก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 30-35% โดย จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่งกลับมาสูงที่ระดับ 16 ล้านคนในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา (-20%YoY) หรือใช้เวลาถึง 3-4 เดือนหลังมาตรการต่างๆ ถูกผ่อนคลายแล้ว

อย่างไรก็ตามหากมาตรการควบคุมการระบาดยังคงมีความเข้มข้นในระดับปัจจุบันจนถึงเดือนก.พ.2564 คาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงสองเดือนแรก ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการ และกลับมาอยู่ในระดับที่ไม่มีการระบาดรุนแรงในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศทั้งปี 2564 ลดลงจากที่เคยประมาณไว้จากข้อสมมุติที่ไม่มีการระบาดรุนแรงที่ 131.8 ล้านคน มาอยู่ที่ 109.6 ล้านคน (ฟื้นตัวจากปี 20 ที่มีเพียง 91 ล้านคน) คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียต่อภาคท่องเที่ยวประมาณ 1.1 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี หากมีการบังคับใช้มาตรการควบคุม 3 เดือนจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าเดิม นักท่องเที่ยวในประเทศจะเหลือเพียง 100.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่า ความสูญเสียต่อการท่องเที่ยวกว่า 1.5 แสนล้านบาท แม้ในภาพรวมการท่องเที่ยวจะต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือนในการฟื้นตัว แต่ประเมินว่าการท่องเที่ยวในบางจังหวัดจะฟื้นตัวได้ก่อน

สำหรับการฟื้นตัว ประเมินว่ากลุ่มจังหวัดที่มีรายได้หลักมาจากนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางมาเที่ยวจากจังหวัดใกล้เคียง จะฟื้นตัวได้ก่อน อย่างเช่น นครราชสีมา กาญจนบุรี เป็นต้น