ดาวโจนส์ปิดบวก 60 จุด คาดหวังมาตรการชุดใหม่

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 60 จุด คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12 มกราคม 2564 ปิดที่ 31,068.69 จุด เพิ่มขึ้น 60.00 จุด หรือ 0.19% ความสนใจของนักลงทุนกลับมาที่การขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ และการฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้กับประชาชนจะช่วยหนุนเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,801.19 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด, +0.04%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,072.43 จุด เพิ่มขึ้น 36.00 จุด, +0.28%

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของบริษัทจดทะบียน โดยเจพีมอร์แกน ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะสะท้อนภาวะเศรษฐกิจ และจับตาความพยายามที่จะถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้คณะบริหารชุดใหม่ไม่สามารถทุ่มเทกับการออกมาตรการใหม่อย่างเต็มที่

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นไปแตะ 1.187% ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคมแม้จะกลับมาที่ 1.13% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีที่ปรับขึ้นไปที่ 1.88% สูงสุดตั้งแต่ เดือนมีนาคมเช่นกัน

การเพิ่มขึ้นที่ต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ตั้งแต่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในรัฐสภา อาจจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการซื้อสินทรัพย์

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เพราะจะได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 2.85% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 1.57% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.81% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 2.11%

หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) เพิ่มขึ้น 6.29% และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี หลังจากประกาศแผนการผลิตรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะส่งมอบให้กับบริษัทเฟดเอ็กซ์ภายในสิ้นปีนี้

อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแพงขึ้นไปอีกในการขยายธุรกิจผ่านการออกตราสารหนี้เพิ่มขึ้น และมองว่ามูลค่าของหุ้นสูงเกินไปแล้ว

หุ้นเฟซบุ๊กลดลง 2.2% หุ้นอัลฟาเบธลดลง 1.1%

กระทรวงแรงงานเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพฤศจิกายน ลดลง 105,000 ตำแหน่ง มาที่ 6.527 ล้านตำแหน่ง

สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนธันวาคมลดลงมาที่ระดับ 95.9 จากระดับ 100.9 ในเดือนพฤศจิกายน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นักลงทุนยังกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งจับตาสถานการณ์การเมืองและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ในสหรัฐฯ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 408.61 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด,+0.05%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,754.11 จุด ลดลง 44.37 จุด, -0.65%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,650.97 จุด ลดลง 11.46 จุด, -0.20%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,925.06 จุด ลดลง 11.60 จุด, -0.083%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 53.21ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
อ่านข่าว

หุ้นเอเชียเช้านี้มีทั้งบวก-ลบ “ฮ่องกง-จีน” ร่วง

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นรับกำลังผลิตซาอุฯ เดือนก.พ.