BAY แจ้งไตรมาส 2 กำไรโต 6.8% ส่งผลครึ่งปีแรกกำไรแตะ 1.24 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมปรับเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้โต 8-10% จากเศรษฐกิจที่จะเติบโตที่ 4.7%
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 6,273.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,871.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 410.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.8% ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรสุทธิอยู่ที่ 12,487.89 ล้านบาท เทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11,516.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 972 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.4%
BAY ระบุว่า กำไรสุทธิงวด 6 เดือนที่เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากเงินให้สินเชื่อรวมที่เติบโตแข็งแกร่ง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 14.5% โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเช่าซื้อ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบริหารความมั่งคั่ง กองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ และกําไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค่าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 เงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.64 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธ.ค.2560 หรือเพิ่มขึ้น 5.9% และเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 6.7% สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 4.8% และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น 6.7% ส่วนเงินรับฝากมีจำนวนทั้งสิ้น 1.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธ.ค.2560
สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 2.02% เมื่อเทียบกับสินเชื่อรวม โดย BAY มีเงินสำรอง 6.05 หมื่นล้านบาท การสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์สํารองของธปท.ปรับตัวดีขึ้นโดยอยู่ที่ 157.5% ขณะที่อัตราส่วนเงินสํารองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้นอยู่ 161.7% จาก 157% ในไตรมาส 1 ปี 2561
BAY ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2561 ในกรณีที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนไม่รุนแรงขึ้น ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม โดยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2561 เป็น 4.7% จากเดิมที่อยู่ที่ 4% และจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ธนาคารคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีจะอยู่ในช่วง 8-10% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในช่วงต้นปี