ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 380 จุด กังวลนโยบายภาษีไบเดน-โควิด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 380 จุด กังวลนโยบายภาษีไบเดน วิตกสถานการณ์ไวรัสกระทบเศรษฐกิจฟื้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) เปิดซื้อขายวันแรกของปี 2564 วันที่ 4 มกราคม 2564 ที่ 30,223.89 จุด ลดลง 382.59 จุด หรือ 1.25 หลังจากที่ร่วงลงไปถึง 700 จุด นักลงทุนเทขายทำกำไรจากราคาที่ปิดนิวไฮในสัปดาห์สุดท้ายของปีก่อน ผนวกกับการกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก รวมทั้งจับตาผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในจอร์เจียที่

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,700.65 จุด ลดลง 55.42 จุด หรือ -1.48%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,698.45 จุด ลดลง 189.84 จุด หรือ -1.47%

การลดลงของหุ้นโคคา-โคล่า และหุ้นโบอิ้งหลังนักวิเคราะห์ปรับคำแนะนำการลงทุนเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาด โดยหุ้นโคคา-โคล่าลดลง 3.79% หุ้นโบอิ้งลดลง 5.29%

นักลงทุนกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาก และนายกรัฐมน ตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อสกัดการแพร่ระบาด ประชาชนออกจากบ้านเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นหรือ ทำงานหากไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ และโรงเรียนใช้ระบบการเรียนทางไกล

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 85 ล้าน โดยในสหรัฐฯมีจำนวน 20.7 ล้านคน ในอังกฤษ 2.7 ล้านคน

นอกจากนี้ยังวิตกต่อความสมดุลของวุฒิสมาชิกในสภา หากหพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจียวันที่ 5 มกราคม จะทำให้พรรคครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้เป็นแรงหนุนนโนยบายของนายโจ ไบเดน ทั้งนโยบายภาษี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% จากเดิม 21% ซึ่งจะมีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน

อย่างไรก็ตามข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเผยแพร่เมื่อคืนนี้ไม่ได้เลวร้ายมาก โดยกระทรวงพาณิชย์รายงาน การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.9% จากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนตุลาคม

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 57.1 จากระดับ 56.7 ในเดือนพฤศจิกายน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014

แต่นักลงทุนยังกังวลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจเพราะการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการใช้มาตรการเข้มงวดในเดือนที่แล้ว รวมทั้งการกลายพันธ์ของไวรัส

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขายวันแรกของปีปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 3.9% แม้ยังการกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก

หลังจากตลาดปิด นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตยูโรโซนเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 55.2 ต่ำกว่าคาดการณ์ครั้งแรกที่ 55.5 แต่เพิ่มขึ้นจาก 53.8 เดือนพฤศจิกายน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 401.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, +0.67%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,571.88 จุด เพิ่มขึ้น 111.36 จุด, +1.72%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,588.96 จุด เพิ่มขึ้น 37.55 จุด, +0.68%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,726.74 จุด เพิ่มขึ้น 7.96 จุด, +0.06%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 90 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 47.62ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 71 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 51.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ไม่มีข้อสรุปตกลงเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน