บล.กสิกรจับตา วินโดว์ เดรสซิ่ง ดันหุ้น 1,500 จุด

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดหุ้นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563  ให้แนวรับ 1,475 และ 1,460 จุด  แนวต้าน  1,500 และ 1,510 จุด ติดตามกองทุนซื้อ ทำ Window Dressing  ยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ ธนาคารกสิกรไทยคาดเงินบาทเคลื่อนไหว 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาดหุ้นสัปดาห์ถัดไป (28-30 ธ.ค.63) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,500 และ 1,510 จุดตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทำ Window Dressing และแรงซื้อจากกลุ่มกองทุน สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนความชัดเจนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น

หุ้นเคลื่อนไหวผันผวน แต่กลับมาปิดสูงกว่าสัปดาห์ก่อน โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,486.31 จุด เพิ่มขึ้น 0.27% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 99,689.33 ล้านบาท ลดลง 6.90% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.48% มาปิดที่ 336.94 จุด

หุ้นร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ หลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น ก่อนจะแกว่งตัวไร้ทิศทางติดตามมาตรการดูแลสถานการณ์ อย่างไรก็ดี หุ้นดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังรัฐบาลยังไม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอียูและอังกฤษ รวมถึงแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันช่วงก่อนสิ้นปี

ธนาคารกสิกรไทยคาดการณ์ค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (28 ธ.ค. 63-1 ม.ค. 64) เคลื่อนไหวในกรอบ 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทอ่อนค่า แต่ฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยช่วงต้นสัปดาห์อ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคท่ามกลางสัญญาณเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกและในไทย และมีแรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย อย่างไรก็ดีเงินบาทสามารถลดช่วงอ่อนค่า และทยอยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายๆ สัปดาห์ตามแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชัน หลังจากที่ประชุม ศบค. มีการคุมเข้มเฉพาะบางพื้นที่ ไม่ได้ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

ในวันศุกร์ (25 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.08 เทียบกับระดับ 29.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 ธ.ค.)