KEX ลั่นเล็งเพิ่มธุรกิจใหม่ บล.ฟิลลิปชี้ตลาดให้เป้าไม่เกิน 37บาท

HoonSmart.com>>”เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” เผยภาพธุรกิจปี 64 โตต่อ  ปริมาณส่งของเพิ่มในช่วงโควิดระบาด ยันรับได้สูงสุด 1.9 ล้านชิ้นต่อวัน หวังปี 66 แตะ 3 ล้านชิ้นต่อวัน  รายได้โต 20% ตามอีคอมเมิร์ซ ตั้งงบลงทุนปีหน้า 1,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจปัจจุบัน ขยายธุรกิจใหม่ร่วมมือ VGI คาดรู้ผลปี 64  “คีรี” เผยความร่วมมือภายในกลุ่มหนุน BTS มีผู้โดยสารเพิ่ม คาด 2.5 ล้านเที่ยวคนต่อวัน “ไทยพาณิชย์” ที่ปรึกษา-อันเดอร์ไรท์เชียร์  KEX มีจุดเด่นหลายด้าน เป็นที่สนใจของนักลงทุน บล.ฟิลลิปเผยตลาดให้ราคาพื้นฐาน 35.17-36.67 บาท เทียบราคาปิดครึ่งวันแรกที่ 53 บาท 

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX  เข้าซื้อขายวันที่ 24 ธ.ค. ร้อนแรงตามคาด โดยเปิดที่ราคา 65 บาท ก่อนขึ้นไปสูงสุดถึง 73 บาท และต่ำสุด 46 บาท ปิดที่ 53 บาท เพิ่มขึ้น 25 บาทหรือ 89.29% จากราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,250.87 ล้านบาท

นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)   เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทคาดว่าจะธุรกิจจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะช่วยทำให้ปริมาณการส่งของเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านชิ้นต่อวัน จากปกติเฉลี่ยประมาณ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับได้สูงสุด 1.9 ล้านชิ้นต่อวัน โดยบริษัทฯได้มีแผนการรองรับไว้แล้ว คาดว่ารายได้จะเติบโตใกล้เคียงอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ  ประมาณ 20% ใน 3-5 ปี ข้างหน้า (ปี2566-2568)  และตั้งเป้าปริมาณการส่งพัสดุ 3 ล้านชิ้นต่อวันในปี 2566

บริษัทฯตั้งงบลงทุนในปี 2564 ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายจุดในการให้บริการ จากปัจจุบันมีจำนวน 15,000 แห่ง และเพิ่มศูนย์กระจายสินค้า จากที่มีอยู่ 1,200 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมถึงใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยี และระบบไอที เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่ง

ส่วนราคาค่าส่งพัสดุหรือสินค้า บริษัทมีการบริหารจัดการแบบกลุ่ม โดยผู้ที่มีปริมาณการส่งจำนวนมาก บริษัทจะลดค่าจัดส่ง ส่วนระยะยาวมีแผนจะลดราคาส่งต่อหน่วย และบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงเช่นกัน ขณะที่ปริมาณการส่งยังสูง ส่งผลให้บริษัทมีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายการเติบโตไปยังธุรกิจที่เกี่ยวกับพัสดุ และธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจคือ บริษัท วีจีไอ (VGI) ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กันและกัน  ได้ที่มีการขยายจุดให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า BTS และ VGI ได้โฆษณาผ่านรถของบริษัทฯที่ปัจจุบันมีประมาณ 25,000 คัน ส่งผลให้มีรายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนไม่ได้สูงขึ้น และในอนาคตมีแผนที่ขยายความร่วมมือ คาดว่าจะมีความชัดเจนของแผนที่วางไว้ในปี 2564

ด้านนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกิตติมศักดิ์ KEX เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณเคอรี่ ฮองกง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่เปิดโอกาสและเข้ามาเป็นส่วนหนี่งในการเป็นผู้ถือหุ้นหลัก โดยเริ่มแรกเกิดจากการร่วมมือกันทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมกันและกันในทุกๆด้าน ทั้งความแข็งแกร่งของ VGI เรื่องพื้นที่โฆษณาในจังหวัดกรุงเทพฯ และของ BTS ในการช่วยเสริมจุดบริการบนสถานีรถไฟฟ้า และในการเข้าถือสื่อโฆษณา จากบัตรบัตรแรบบิท ที่คาดว่าในปี 2564 จะมีปริมาณผู้โดยสาร 2.5 ล้านเที่ยวคนต่อวัน

ด้านน.ส.วีณา เลิศนิมิตร กรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมหุ้น KEX เปิดเผยว่า หุ้น KEX ได้รับสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากนักลงทุนสถาบัน และรายย่อยในประเทศไทย และต่างประเทศ เพราะเป็นธุรกิจที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่เติบโตต่อเนื่อง และได้รับแรงกระตุ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การซื้อขายออนไลน์เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่งผลดีต่อธุรกิจของ KEX

” KEX เป็นหุ้นที่มีจุดเด่นหลายด้าน ทั้งเป็นผู้จัดส่งพัสดุด่วนรายแรกของไทย  เติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรม และอยู่ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ  จึงเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน รวมถึงมีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุด และมีปริมาณการขนส่งต่อวันมากที่สุด ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ” น.ส.วีณา กล่าว

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ วันที่ 24 ธ.ค.2563 ว่า ตลาดให้ราคาพื้นฐานเฉลี่ย (Market Consensus) เท่ากับ 35.17-36.67  บาท