NRF ทุ่มลงทุน 3 โครงการ จับมือ B ขนส่งแบบคุมอุณหภูมิ

HoonSmart.com>>บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ เร่งต่อยอดธุรกิจ  ร่วมทุน 3 โครงการ  ขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ธุรกิจขายสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืช Plant-based  ลงทุนในกองทุน สตาร์ทอัพเกี่ยวกับเทคโนโลยีพัฒนาอาหารโปรตีนทางเลือก ในต่างประเทศ

นางสาวเพ็ญอุไร ไชยชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและการลงทุน บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเข้าลงทุน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการร่วมลงทุนในบริษัทร่วมจัดตั้งใหม่ เพื่อลงทุนในธุรกิจการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold chain logistics) ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับหรับขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร, ศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold chain warehouses), การนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (Cold storage) ตลอดจนทำPlatform(Online/AI) ภายในไตรมาส 1 ปี 2564 ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 60%และบริษัท บี จีสติกส์ ถือหุ้น 40%

บริษัทร่วมทุน เป็นกลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้าน Plant-based ซึ่งมีความต้องการในด้านการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อช่วยควบคุมการจัดเก็บและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และจะช่วยส่งเสริมให้อาหารและสินค้า Plant-based ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิต และจากภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหารอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท บี จีสติกส์ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่ง (Logistics) อยู่แล้วและมีความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจประเภท Plant-based และจะช่วยลดต้นทุนการจัดจำหน่ายสินค้าประเภท Plant-based และผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัทอีกด้วย

2.โครงการจัดตั้งบริษัทเพื่อลงทุนในธุรกิจขายสินค้า Plant-based เพื่อขายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม Plant-based ให้ผู้บริโภคผ่านช่องทางการค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น อีกทั้งยังขายสินค้าให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และส่งออก ภายใต้แบรนด์ของบริษัทร่วมทุน โดย NRF ถือหุ้น 51% และนายเฮสเตอร์ อาร์เธอร์ชูว์ไฮ ชีน ถือหุ้น 49% เป็นกลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้าน Plant-based เพื่อรองรับการขยายตัวของการบริโภคอาหารและอุตสาหกรรมโปรตีนจากพืชที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเล็งเห็นถึงโอกาสและความสามารถในการเติบโตและต่อยอดจากภาคการ ผลิตของบริษัท นอกจากนี้ จะทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นและสามารถมาปรับใช้และนำความรู้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ Plant-based ในอนาคตต่อไป

3.โครงการลงทุนในกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพเกี่ยวกับโปรตีนทางเลือก Unovis NCAP Fund II ในรูปแบบหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (Limited Partner) ซึ่งจะลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีพัฒนาอาหารโปรตีนทางเลือก ตั้งแต่การลงทุนเพื่อเริ่มธุรกิจไปจนถึงขั้นขยายกำลังการผลิตและส่งขายสินค้าไปทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมงานและบุคคลากรของ Unovis Asset Management ลงทุนในไตรมาส 1 ปี 2564 ถึง ปี 2566

ส่วนประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถก้าวทันเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมอาหารในระดับสากล เนื่องจากกองทุนของ Unovis เป็นกองทุนชั้นนำของโลกทางด้านโปรตีนทางเลือก และมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทในเครือของกองทุน (Portfolio companies) อีกทั้ง การลงทุนจะเป็นช่องทางในการขยายธุรกิจและเข้าถึงนวัตกรรมที่ทันสมัย และเปิดโอกาสให้บริษัทเป็นผู้ผลิตให้กับธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในระยะยาวได้ ในทางกลับกันบริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทในเครือของกองทุน ผ่านความร่วมมือและองค์ความรู้ของตลาดในเอเซียที่บริษัทสั่งสมมาอย่างยาวนาน อีกทั้ง กองทุนยังมีทีมที่ปรึกษาที่มากประสบการณ์ และมีเครือข่ายธุรกิจที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรม ซึ่ง Unovis ได้มีกองทุน Unovis NCAP I ที่เป็นกองทุนแรกที่ได้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับโปรตีนทางเลือก เช่น Beyond Meat (เนื้อจากโปรตีนพืช) Memphis Meats (เนื้อสังเคราะห์) Miyoko’s Creamery (ชีสจากโปรตีนพืช) เป็นต้น