HoonSmart.com>> “บอร์ดยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ” เคาะเตรียมหยุดประกอบธุรกิจสิ่งทอ โรงงานทอผ้าตั้งแต่ 1 มิ.ย.64 โรงงานปั่นด้ายหยุดผลิตมี.ค.64 หลังขาดทุนต่อเนื่อง 10 ปี ชี้ธุรกิจแข่งดุ ตัดราคารุนแรง ด้านลูกค้าหลักในยุโรปได้รับผลกระทบเศรษฐกิจถดถอย ถูก COVID-19 ซ้ำ ตั้งคณะทำงานศึกษาลงทุนธุรกิจใหม่
บริษัท ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ (UT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563 มีมติให้หยุดประกอบธุรกิจสิ่งทอซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีผลการดำเนินงานขาดทุนมาตลอด แม้ฝ่ายจัดการจะพยายามแก้ไขสถานการณ์แล้วก็ตาม โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ได้แก่ ผ้าฝ้าย 100% ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์และหรือใยสังเคราะห์อื่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะตามที่ลูกค้าต้องการ เป็นต้น
สาเหตุหลักมาจากสภาพการแข่งขันธุรกิจสิ่งทอมีความรุนแรงและมุ่งเน้นด้านราคาเป็นหลัก ทำให้บริษัทเกิดความเสียเปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งในต่างประเทศที่มีต้นทุนด้านค่าแรงต่ำกว่า เช่น จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน เวียดนาม เป็นต้น นอกจากนี้ลูกค้าหลักของบริษัทซึ่งอยู่ในทวีปยุโรปได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย บริษัทจึงได้รับคำสั่งซื้อลดลงมาตลอด ประกอบกับเครื่องจักที่ใช้ในการผลิตมีอายุการใช้งานนาน ทำให้มีข้อจำกัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
นอกจากนี้ในปี 2563 เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบกับประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทำให้คำสั่งซื้อของลูกค้าลดลงอย่างมากและคาดว่าสถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้นต่อเนื่องไปถึงปี 2564
คณะกรรมการบริษัทจึงพิจารณาและเห็นว่า หากยังคงดำเนินธุรกิจสิ่งทอต่อไปในอนาคตจะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้น จึงมีมติให้หยุดประกอบธุรกิจสิ่งทอ ปั่นด้ายและทอผ้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 โดยแผนการหยุดผลิตสำหรับโรงงานปั่นด้าย จะผลิตตามที่มีวัตถุดิบคงเหลืออยู่ให้หมด เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการทอผ้าของบริษัทเท่านั้นและคาดว่าจะหยุดผลิตได้ประมาณสิ้นเดือนมี.ค.2564
ส่วนโรงงานทอผ้า จะผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่รับไว้ล่วงหน้าให้เสร็จและคาดว่าจะหยุดผลิตได้ประมาณสิ้นเดือนพ.ค.2564
ภายหลังหยุดผลิตแล้วบริษัทจะเลิกจ้างพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ณ วันที่ 22 ธ.ค.2563 มีพนักงานโรงงานปั่นด้าย 215 คนและโรงงานทอผ้า 159 คน
สำหรับแผนการขายผ้าทอ บริษัทคาดว่าจะขายและส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าตามคำสั่งซื้อที่รับไว้ล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/2564
ส่วนแผนการจัดการทรัพย์สิน มีแผนทยอยจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์โรงงาน อุปกรณ์ขนส่งฯลฯ หลังหยุดผลิต คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 โดยทรัพย์สินเหล่านี้มีมูลค่าตามบัญชี ณ 30 ก.ย.2563 ประมาณ 53 ล้านบาท คิดเป็น 37.59% ของมูลค่าสินทรัพย์ถาวรสุทธิ ส่วนแผนการเลิกจ้างพนักงาน จะให้สอดคล้องกันแผนกำลังการผลิตโดยพนักงานจะได้รับค่าชดเชนตามกฎหมายแรงงาน พร้อมกันนี้บริษัทได้พิจารณาเงินช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษสำหรับการเลิกจ้างตามเกณฑ์อายุงาน โดยบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอในการจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว
อย่างไรก็ตามแม้บริษัทจะหยุดผลิตสิ่งทอที่เป็นธุรกิจหลัก บริษัทยังคงมีรายได้อื่นจากการให้เช่าที่ดิน อาคารโรงงานบางส่วนและยังมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่อยู่เพื่อดูแลทรัพย์สินและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายใต้การเป็นบริษัทจดทะเบียน เช่น การตรวจสอบภายใน การจัดทำงบการเงิน ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการเป็นต้น
คณะกรรมการบริษัทได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจใหม่ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ