HoonSmart.com>> “โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา” หวังนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมา ปีหน้าลุยลงทุนต่อ ตั้งงบ 4.2 พันล้านบาท เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง สรุปดีลควบรวมกิจการอาหาร 2 ดีล ในไตรมาส 1/64 ส่วนปีนี้ทำใจขาดทุนหนัก คาดอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ 20-30% รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยติดลบ 65-75% ธุรกิจอาหารคาด SSSG ติดลบ 19-21%
ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริการ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี2564 จะเริ่มเห็นการเติบโตที่ดีขึ้น จากเศรษฐกิจเติบโต และเริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการคลังคาดจะมีเข้ามาประมาณ 8 ล้านคน และเพิ่มเป็น 16 ล้านคนในปี 2565
ในปี 2564 บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 4,200 ล้านบาท ใช้ในการขยายธุรกิจ โดยจะเปิดโรงแรมเพิ่มประมาณ 9 โรงแรม มีห้องพักรวม 2,545 ห้อง และร้านอาหาร ทั้งการเปิดสาขาเพิ่มและซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าควบรวมกิจการ (M&A) เพิ่มอีก 2 กิจการ คาดจะสรุปในไตรมาส 1/64
“เราอยากให้นักลงทุนมั่นใจว่า ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ด้วยการบริหารงาน การลงทุนที่ระมัดระวัง คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอยู่ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำ ยังมีความสามารถที่หาแหล่งเงินรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดหวังได้ พร้อมมองหาโอกาสในการลงทุนต่อเนื่อง โดยการพิจารณาความเหมาะและผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อสร้างรายได้” ดร.รณชิต กล่าว
ส่วนในปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวรวม 6.7 ล้านคน เทียบจากปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 29.5 ล้านคน คาดว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมจะอยู่ที่ 20-30% และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยทั้งหมดติดลบประมาณ 65-75% ส่วนธุรกิจอาหารคาดว่ายอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) จะติดลบที่ประมาณ 19-21%
ปัจจุบันบริษัทฯมีโรงแรมภายใต้การบริหารงานทั้งสิ้น 81 โรงแรม จำนวน 17,146 ห้อง แบ่งเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 43 โรงแรม 7,908 ห้อง (ที่บริษัทฯเป็นเจ้าของเอง 18 โรงแรม และอีก 25 โรงแรมรับจ้างบริหาร) ซึ่งในช่วงโควิดได้ปิดทั้งหมด ปัจจุบันได้กลับมาเปิดให้บริการ 27 โรงแรม (11 โรงแรมบริษัทเป็นเจ้าของ และ 16 เป็นโรงแรมที่รับบริหาร) ส่วนโรงแรมอีก 38 แห่ง จำนวน 9,238 ห้อง กำลังพัฒนาอยู่
ผลประกอบการงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 9,999 ล้านบาท ลดลง 36.8% รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอาหารประมาณ 76% และทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1,407.9 ล้านบาท พลิกจากที่มีกำไรสุทธิ 1,273.3 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน