เสี่ยปู่-วิวรรณ-บิ๊กบจ.แห่จองซื้อ SO

HoonSmart.com>>”สยามราชธานี”เปิดรายชื่อนักลงทุนได้รับจัดสรรหุ้น IPO  “เสี่ยปู่” สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ผงาดถือหุ้นใหญ่อันดับ 8  “วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ” ติดอันดับ 10   ราคาหุ้นทะลุ 10 บาท แจกกำไรกว่า 50 % แถมเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.16 บาท ผู้บริหารลั่นเดินหน้าสร้างการเติบโต 

นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี (SO) ผู้ประกอบธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงการเสนอขายหุัน IPO จำนวน 85 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.50 บาทว่า ได้จัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุน 20 อันดับแรก ที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน(บจ.) และนักวางแผนการเงิน โดย นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ได้รับการจัดสรรมากที่สุด  จำนวน 2.5 ล้านหุ้น เป็นเงิน16.25 ล้านบาท หรือ 2.94% ตามด้วย นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ “เสี่ยปู่” นักลงทุนรายใหญ่  2 ล้านหุ้น มูลค่า 13.03 ล้านบาท หรือ 2.36% ส่งผลให้นางวิวรรณ ถือหุ้น SO ใหญ่เป็นอันดับ10 ส่วน ”เสี่ยปู่” ถือหุ้นอันดับ 8 เพราะยังได้รับการสรรผ่านการจองซื้อของ บลจ.แอสเซท พลัส ที่บริหารพอร์ตลงทุนให้ด้วย

ส่วนผู้ได้รับการจัดสรรหุ้น  อันดับ 3 คือ นายจิรณุ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท  จำนวน  2 ล้านหุ้น หรือ 2.35% และยังปรากฎรายชื่อผู้บริหารจดทะเบียน (บจ.)  เช่น น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ได้  1 ล้านหุ้น หรือ 1.18% เท่ากับ นายโยธิน ธาราหิรัญโชติ  นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ได้ 400,000 หุ้น เท่ากับ นายวิโรจน์ พรประกฤต ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBILE)

นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายใหญ่ คือ นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล  ได้จัดสรรหุ้น 600,000 หุ้น และน.ส.นลินี แจ่มวุฒิปรีชา หรือเจ๊สีฟ้า ได้  300,000 หุ้น

สำหรับนักลงทุนสถาบันที่ได้รับการจัดสรร เช่น กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มเซ็ท 50 จองซื้อจำนวน 3.52 ล้านหุ้น บริษัท ทิพยประกันภัย   2.3 ล้านหุ้น นายสมพงษ์  โดย บลจ.แอสเซท พลัส ได้ 1.1 ล้านหุ้น กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว ได้ 810,000 หุ้น กองทุนเปิดหุ้นคุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ได้ 598,000 หุ้น และ น.ส.ธิดา แก้วบุตตา ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ได้จำนวน 186,000 หุ้น เป็นต้น

ทั้งนี้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น  SO ที่ราคาจองซื้อ 6.50 บาท หากยังคงถือหุ้น มาจนถึง วันที่ 9 ธ.ค.2563 จะได้รับกำไรมากกว่า 50% ล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมาสูงกว่า 10 บาท และยังได้เงินปันผลหุ้นละ 0.16 บาท

ด้านนายจิรณุ กล่าวว่า ภายหลังเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ทั้งจากลูกค้าเดิมที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่องยาวนานและขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่มหรือขยายบริการใหม่ๆ จากการพัฒนาบริการในการบริหารงานบุคลากร โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งการหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท

ส่วนราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากวันแรกที่เข้าซื้อขายนั้น ถือเป็นหน้าที่ที่ทีมผู้บริหาร และพนักงานจะต้องเดินหน้าสร้างธุรกิจให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนั้นบริษัทได้จัดสรรหุ้นบางส่วนขายให้ผู้บริหารและพนักงาน เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท เพื่อร่วมผนึกกำลังทุ่มเททำงานให้บริการลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 4/2563 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตสวนวิกฤติโควิด- 19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากบริษัทมีบริการด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปกับบุคลากร จึงสามารถหางานใหม่ๆ เข้ามาได้มากขึ้น ทั้งลูกค้าเดิมที่จ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนการต่อสัญญาของลูกค้าเดิมยังสูงกว่า 90% และลูกค้ารายใหม่ รวมทั้งการขยายบริการใหม่ๆ ซึ่งลูกค้าใหม่เข้ามาครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้บริการ ได้แก่ 1.SO People บริการบริหารจัดการด้านบุคลากร เช่น พนักงานประจำออฟฟิศ พนักงานขับรถ 2.SO Green บริการดูแลภูมิทัศน์ สวนขนาดใหญ่ 3.SO Wheel บริการ รถยนต์ให้เช่า และ4.SO Next บริการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล” นายจิรณุ กล่าว