KTAM เชื่อมั่นตราสารหนี้ทั่วโลกยังดี ส่งกองที่ 11 เสิร์ฟนักลงทุน

HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย เปิดขายซีรีส์ “กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก” อายุ 1 ปีต่อเนื่อง เสิร์ฟนักลงทุน IPO ตั้งแต่วันนี้ถึง 4 ธ.ค.63 หลังผลตอบรับดีเปิดขาย 10 กองทุน ยอดเงินลงทุนกว่า 2.69 หมื่นล้านบาท

ชวินดา หาญรัตนกูล

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายซีรีส์ กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก อายุโครงการประมาณ 1 ปี มาแล้ว 10 รุ่น และได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถระดมทุนได้กว่า 26,900 ล้านบาท โดยบริษัทยังเดินหน้าเปิดเสนอขายอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y11 (KTGF1Y11) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 ธ.ค.2563 ลงทุนขั้ต่ำ 1,000 บาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่มองหากองทุนที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอนหรือสามารถรักษาเงินต้นให้อยู่ครบและยังเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนที่เน้นตราสารหนี้ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจผันผวนด้วยความไม่แน่นอนของยอดผู้ติดเชื้อโควิด ที่ในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกไปแล้วกว่า 63 ล้านคน และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 620,000 รายต่อวันทั่วโลก

กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y11 เป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมี นโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับ ที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภท ตราสารหนี้

อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่า ที่ สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ส่วนที่เหลือ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก. ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด และอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (F X Derivatives) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ

หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนของกองทุน KTGF1Y11 คือ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 VI (Class C USD Acc) ที่บริหารโดย Invesco บลจ.ระดับโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในเน้นสร้างรายได้ผ่านช่วงเวลาการลงทุนที่กำหนด และคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน (ทั้งนี้ กองทุนไม่ได้รับประกันเงินต้น)

รวมถึงมุ่งหมายที่จะบรรลุจุดประสงค์การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ buy-and-maintain ใน ตราสารหนี้สกุลเงิน USD ผ่านการพิจารณาความเสี่ยงเชิงรุก ในระยะเวลาการลงทุน 1 ปีนับจากช่วง Initial Offer Period ไป จนถึงช่วงครบอายุกองทุน ซึ่งมีนโยบายลงทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร) ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในกองทุนนี้ หมายถึง ประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึง ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์