HoonSmart.com>> “เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ” เปิดงบไตรมาส 1/63 ขาดทุนพุ่งแตะ 690 ล้านบาท ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเชื่อมั่น ด้านส่วนผู้ถือหุ้นติดลบเพิ่มเป็น 1,227 ล้านบาท จากสิ้นปี 62 ติดลบ 579 ล้านบาท
บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2563 ขาดทุนสุทธิ 690.38 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.048 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 373.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 316.82 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.026 บาท
ด้านผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเชื่อมั่นและมีข้อสังเกต/เรื่องอื่น เนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์
บริษัทฯ ชี้แจงว่า ในไตรมาส 1/2563 มีรายได้รวมจำนวน 209.03 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 584.90 ล้านบาท หรือ 74% โดยมีรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีจำนวน 72.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.22 ล้านบาท หรือ 22% จากงวดปีก่อนรับรู้รายได้โครงการมหาสมุทรวิลล่า 2 ห้อง รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จากดีน แอนด์ เดลูก้า จำนวน 95.85 ล้านบาท ลดลง 393.18 ล้านบาท หรือ 80% เนื่องจากปี 2562 กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของกลุ่มบริษัทได้ปิดสาขาในสหรัฐและในไทยบางสาขา
รายได้ค่าธรรมเนียมเครื่องหมายทางการค้าและชื่อทางการค้า “ดีน แอนด์ เดลูก้า” รายได้จากการตกแต่งถายในและรายได้อื่นๆ จำนวน 41.05 ล้านบาท ลดลง 204.93 ล้านบาท หรือ 83% จากงวดปีก่อนซึ่งมีการรับรู้รายได้จากการได้รับลดหนี้และกำไรจากจำหน่ายเงินลงทุนในการร่วมค้าจำนวน 179.2 และ 35.65 ล้านบาท ตามลำดับ
อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากงวดปีก่อนที่ 14.5% เป็นติดลบ 64.4% เนื่องจากรับรู้ต้นทุนทางการเงินและขาดทุนการปรับลดต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นมูลค่าสุทธิที่จะได้รับเพิ่มเติมสำหรับการขาย แต่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีสาระสำคัญ
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 194.44 ล้านบาท ลดลง 496.43 ล้านบาท หรือ 61% จากงวดปีก่อน และเมือเทียบค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 98% ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 121% จากการปิดสาขาของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งมีดอกเบี้ยจ่าย 372.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212.9 ล้านบาท จากงวดปีก่อน เนื่องจากกลุ่มบริษัทบันทึกดอกเบี้ยผิดนัดชำระเพิ่มเติม
ณ วันที่ 31 มี.ค.2563 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวม 19,593.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,154.55 ล้านบาท หรือ 6.3% จากวันที่ 31 ธ.ค.2562 โดยมีเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2,332.35 ล้านบาท คิดเป็น 11.9% ของหนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 1.2% หรือเพิ่มขึ้น 27.82 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 4,136.77 ล้านบาท คิดเป็น 21.1% ของหนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 29.9% เพิ่มขึ้น 951.38 ล้านบาท
เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน 8,014.27 ล้านบาท คิดเป็น 40.9% ของหนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 1.1% หรือเพิ่มขึ้น 85.82 ล้านบาท
หุ้นกู้ 1,219 ล้านบาท คิดเป็น 6.2% ของหนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 0.1% หรือเพิ่มขึ้น 0.66 ล้านบาท เงินรับล่วงหน้าและเงินมัดจำจากลูกค้า 2,452.65 ล้านบาท คิดเป็น 12.5% ของหนี้สินรวม ลดลง 1.2% หรือ ลดลง 29.91 ล้านบาท ทั้งนี้หนี้สินหลักคิดเป็น 92.7% ของหนี้สินรวมทั้งหมด
ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากวันที่ 31 ธ.ค.2562 จำนวน 647.90 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนเกินทุนเป็นจำนวน 1,227.11 ล้านบาท จาก 1) ขาดทุนสำหรับงวดไตรมาสที่ 1 จำนวน 690.38 ล้านบาท 2) ขาดทุนจากผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเนื่องจากการนำมาตราฐานการรายงานทางการเงินใหม่มาถือปฏิบัติ
จำนวน 111.18 ล้านบาท และ 3) กำไรจากผลต่างจากการแปลงค่างบการเงินที่เป็นเงินตราต่างประเทศจำนวน 153.66 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ 31 ธ.ค.2562 PACE มีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 579 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผน ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศคำพิพากษาให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
