โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา
ผู้อำนวยการอาวุโส
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย
ส่งท้ายเดือนรองสุดท้ายกับ 5 โอกาสลงทุนจากมุมมองระยะใกล้
รัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ สุงะ กำลังรวบรวมมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจเพื่อจัดทำ “งบประมาณเสริมรอบ 3” (third supplementary budget) เตรียมคลอดต้นเดือน ธ.ค. โดยมี digitalization และ แผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนเหลือ 0 (net zero) ภายในปี 2050 เป็น 2 ชุดโครงการใหญ่ที่ต้องใส่ไว้ในแพคเกจแน่นอน ตัวอย่างล่าสุด แหล่งข่าวเผยรัฐบาลเล็งอัดงบอุดหนุนให้ผู้ซื้อรถ EV จากเดิมคันละ 4 แสนเยน เพิ่มเป็น 8 แสนเยน ทั้งนี้ ตลาดคาด third supplementary budget อาจบวมเป่งทะลุ 20 ล้านล้านเยน ขนาดจริงๆยังไม่แน่นอน ส.ส. บางส่วนอยากให้ #เล่นใหญ่ ไปถึง 40 ล้านล้านเยน ตัวเลขสุดท้ายใกล้สรุปอีกไม่กี่อึดใจคงได้รู้กัน
เราพูดคุยกับผู้จัดการกองทุนหุ้นญี่ปุ่นบางราย มีความเห็นตรงกันว่า งบเสริมรอบ 3 อาจจุดพลุหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการต่างๆให้คึกคัก พุ่งจุดโฟกัสไปยัง “หุ้นขนาดเล็ก” (small cap) ซึ่งมิได้มีดีแค่ราคาถูก แต่เปิดโอกาสลงทุนแบบ pure play โดยบริษัทขนาดเล็กมักทำธุรกิจเดียวหรือน้อยประเภท เมื่อปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนธุรกิจนั้นๆ แนวโน้มผลประกอบการตลอดจนราคาหุ้นจึงได้อานิสงส์เต็มๆ และมีโอกาสวิ่งซิ่งแรงกว่าหุ้นขนาดใหญ่
หุ้นเล็กญี่ปุ่น outperform พุ่งแรงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ใน 2 วันท้ายสัปดาห์ ส่งสัญญาณว่าสมมุติฐานของเรา #มีทรง
“Give Me 5” ตัวแรก KT-JAPAN เน้นลงทุนในหน่วยของ Janus Henderson Horizon Japanese Smaller Companies (กองทุนหลัก) มุ่งแสวงหาการเติบโตระยะยาวจากหุ้นญี่ปุ่นขนาดเล็ก (small cap) ราคาปัจจุบันซื้อง่ายสบายๆเพราะยังไม่ค่อยวิ่ง เราเชื่อว่า small cap อาทิตย์อุทัยกำลังสะสมพลังแสงอาทิตย์ เตรียมพร้อมที่จะพุ่งทะยานตามกระแสความต้องการหุ้นเล็กซึ่งกำลัง “มา” ในหลายตลาด อาทิ ยุโรป และ สหรัฐ หากได้ catalyst ดังกล่าว
ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน วันจันทร์นี้เตรียมอนุมัติข้อตกลงปฏิรูป กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งล่าช้ามาเกือบปีด้วยปัญหาการเมืองบางประเทศ ก่อนโควิดเข้ามาบีบให้เดินหน้าต่อ ผลที่ได้จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ถือพันธบัตร เปิดทางให้ ESM ปล่อยกู้แก่กองทุนแก้ปัญหาภาคธนาคารในอนาคตถ้าเงินหมดท่ามกลางวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอีก …หากขุนคลัง 19 ชาติที่ใช้เงินสกุลยูโรอนุมัติจริงตามนัด ประกอบกับหลายประเทศยุโรปทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดก่อนถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ sentiment เชิงบวกของนักลงทุนก็น่าจะหนุนโมเมนตัมหุ้นยุโรปยาวไปถึงการประชุม ECB นัดสำคัญ 10 ธ.ค. ซึ่งธนาคารกลางยุโรปจะเผยรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลักๆมีทั้งการซื้อตราสารหนี้เพิ่มเติม และโครงการอุดหนุนด้านสินเชื่อแก่ธนาคารพาณิชย์
“Give Me 5” ตัวที่สอง KT-EURO ลงทุนในหน่วยของ Invesco Continental European Small Cap Equity (กองทุนหลัก) เน้นหุ้น small cap ยุโรป (ไม่รวม UK) ณ สิ้นเดือน ก.ย. มีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ green technology ประมาณ 30% ของพอร์ต โดยกลุ่มนี้จัดว่าเป็น megatrend ล่าสุดซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงมาก
หุ้นจีนรีบาวด์ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 2 วันติด (พฤหัสฯ-ศุกร์) สภาพคล่องกลับคืนสู่ตลาดเงินแดนมังกร บรรดาเทรดเดอร์สังเกตได้ทั่วไปตั้งแต่กลางสัปดาห์ว่า เงินทุนหนุนหลังโดยรัฐบาลจีนถูกอัดฉีดเข้าใส่ตลาด repo ช่วยกดดอกเบี้ยระยะสั้น (ซึ่งพุ่งขึ้นเพราะสภาพคล่องตึงตัวช่วงต้นสัปดาห์) ให้กลับลงมาจนใกล้ภาวะปกติ
เรามองข่าว 3 รัฐวิสาหกิจจีนผิดนัดชำระหนี้ (ซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัวก่อนหน้านี้) ในแง่บวก เพราะช่วยพัฒนาตลาดบอนด์ให้สะท้อนความเสี่ยงแท้จริงแก่ผู้ลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจ ลดต้นทุนทางการเงินให้แก่บริษัทที่สร้างกำไรและงบดุลแข็งแกร่ง …หุ้นจีนย่อลงและเพิ่งเริ่มฟื้นจึงเปิดโอกาสเข้าซื้ออย่างแรง!!!
“Give Me 5” สามและสี่ KT-Ashares ลงทุนใน Allianz Global Investors Fund – Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) กองทุนหลักได้ Morningstar 5 ดาว (31 ต.ค. 2020) นอกจากนี้ผู้บริหารกองทุนคือ Allianz ได้รางวัล Best of The Best Awards (3 ปี) ในหมวด China A-Share Equity โดย Asia Asset Management (เม.ย. 2020) และ KT-CHINA ลงทุนใน BlackRock China (กองทุนหลัก) มีหุ้นจีน offshore เป็นส่วนใหญ่ fund manager คนเก่งยึดแนวทาง “ยืดหยุ่น” แสวงหาโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและปฏิรูปทั้งในกลุ่ม new economy และ old economy
ยีลด์พันธบัตรสหรัฐอายุยาวเริ่มย่อลง “นักลงทุนหายคึก” หลังรับข่าวดีวัคซีนหลายสัปดาห์ ยีลด์แท้จริง (US 10-Year TIPS) ปิดต่ำกว่า -0.9% ครั้งแรกใน 1 เดือน ความคาดหวังเงินเฟ้อค่อนข้างทรงตัว ณ ระดับต่ำเข้าข่าย disinflation สภาวะตลาดปัจจุบันคล้ายกำลังยืนยันว่า ปรากฏการณ์ sector rotation รอบล่าสุดยุติลงแล้ว (อ่านแนวคิดได้ใน “ตลาดปิงปอง” 1 พ.ย.) มุมมองการเติบโตทางเศรษฐกิจคลายความร้อนแรง สภาพคล่องสูงขึ้น ต้นทุนการเงินแท้จริงต่ำลง ส่วนผสมของปัจจัยมหภาคทั้งหลายดังกล่าวกลับมาเข้าทาง หุ้นเติบโตสูง (growth stocks) ทั้งในสหรัฐและระดับโลก
Rally to Infinity (KTAM Weekly 23 พ.ย.) 1-2 เดือนจากนี้ดูแล้วเข้าทาง หุ้นเทคโนโลยี AI มีโอกาสสร้างความประทับใจผ่านช่วงเวลาทั้ง santa rally ในเดือนสุดท้ายและน่าจะต่อเนื่องไปถึง earnings season ต้นปีหน้าเลยทีเดียว!
“Give Me 5” ตัวท้ายสุด (และน่าจะแรงสุด) KT-WTAI #เป็นมากกว่าหุ้นเทค ลงทุนใน Allianz Global Artificial Intelligence (กองทุนหลัก) เน้นหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) คือความสามารถของโปรแกรมหรือสมองกลในการคิดและเรียนรู้แบบมนุษย์ ซึ่งถูกฝึกให้ มองเห็น ได้ยิน นำทาง ตอบโต้ แบบ real time พัฒนาการตลอดหลายปีที่ผ่านมาชี้ชัดว่า AI มีบทบาทสำคัญต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ พัฒนาความสามารถการแข่งขัน ตลอดจนสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดแก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม ได้แก่ AI Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานทั้ง software และ hardware เพื่อรองรับและพัฒนาเทคโนโลยี, AI Applications มุ่งประยุกต์ใช้ AI ให้ทำสิ่งต่างๆแทนคนได้มากขึ้น ตัดสินใจเร็วขึ้น และประหยัดต้นทุน, AI-enabled Industries ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจที่นำ AI ไปสร้างคุณค่า อาทิ การเงิน สุขภาพ ขนส่ง สื่อ ยานยนต์ ค้าปลีก เกษตรกรรม พลังงาน การก่อสร้าง การศึกษา ฯลฯ ทั้งหมดนี้อยู่ในข่ายที่กองทุนหลักสามารถเข้าไปลงทุน
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน