โดย..รัสปูติน
www.hoonsmart.com เสนอความจริงทุกการลงทุน ปีที่ 1 วันที่ 16 กรกฎาคม 2561
* ไม่ได้อิจฉา ตูข้าก็เหมือนคนอื่นที่อยากรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น สำหรับ กรณีอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คนที่กลายสภาพเป็น “ผู้ต้องหาใน และหนีคดีสำคัญ” จนกลายเป็นผู้ลี้ภัย นั่งดูบอลคู่ตัดเชือกกับคนสำคัญในบ้านเมืองหน้าตาเฉย ที่ทำให้ฮือฮาและงุนงงทั้งเมือง กลายเป็นเรื่องจริงที่จัดฉากเรียบร้อย ไม่ใช่การตัดต่อของคนหาเรื่อง..This is Thailand, the land of smile.
* ความไม่ปกตินี้ ทำให้คนคาดเดาไม่ยากว่า มุมมองของพวก “คนโลกสวย” ที่หวังลม ๆ แล้งว่า จะมีเลือกตั้งปีหน้า จะไม่ต่างอะไรกับชาวนาที่ก้มหน้าทำนาแบกหนี้ พร้อมกับความคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ราคาข้าวเปลือกจะเกินตันละ 10,000 บาท…ส่วนข้อเท็จจริงประการใด นักเลงหุ้นต้องถาม “เสี่ยกลาง“แห่ง GULF คนจ่ายเงินค่าเดินทางสำหรับสื่อสำนักใหญ่ ที่เหินฟ้า
จากกทม.ไปรัสเซียทั้งหมด เพื่อเป็นสักขีพยานของอดีต 2 นายกรัฐมนตรีคนดัง ..ว่าเจตนามีอะไรบ้าง
* เมื่อวันศุกร์ ดัชนีตลาด SET ปิดบวกเกือบ 3 จุด ตามต่างประเทศ แต่ยังไม่ผ่าน 1,650 จุด หลังคลายกังวลสงครามการค้า แต่มูลค่าซื้อขายบางเบา 3.76 หมื่นล้านบาท บ่งบอกสัญญาณแผ่วเบาชัดเจน ว่า ตลาดยังไม่ปลอดภัยในช่วงไซด์เวย์อัพ เนื่องจากเหตุผลสำคัญ คือ รายได้และกำไรไตรมาสสอง เป็นช่วงโลว์ซีซั่นสำหรับหุ้นธนาคารซึ่งมีมาร์เก็ตแคป มากถ่วงตลาดอยู่
* กรณี NPLs ของสถาบันเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ถูกตีความเชิงลบได้ง่ายมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องแค่กำไรลด แต่มีคำถามว่า คุณภาพหนี้แบงก์ หรือสถาบันการเงินเสี่ยงมากขึ้น แสดงว่า อาจจะหมายถึงลูกค้ามีปัญหาในด้านสภาพคล่องทางการเงิน จนต้องใช้เครื่องมือสารพัด( ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดวงเงินส่งชำระ หรือจัดหาบริการเสริม หรือกระทั่งหาคนมาช่วยซื้อกิจการ) เข้ามาโอบอุ้มเพิ่มเติม
* กรณีนี้ ทำให้ตลาดผันผวนง่ายมาก รายไหนที่ทำท่าหนี้เสียเพิ่ม ราคาหุ้นจะตก เพราะ bottom line มีปัญหา ส่วนรายไหนไม่มีก็เด้งดึ๋งง่ายมากเกินไป
* หุ้นที่ราคาวิ่งเกินพื้นฐาน จนหาเหตุผลไม่ได้ ACAP วิ่งแรง 4 วันติด บวกต่อเกือบ 6% เก็งกำไรต่อ หลังสินเชื่อโตตามเป้า กำไรไตรมาสสองคาดว่าระเบิดระเบ้อ เปิดตลาดบวกไปถึง 7.80 บาท แม้บ่ายท้ายตลาดจะถูกแรงขายทุบลงมา แต่ก็ปิดสวยที่ 7.55 บาท บวก 0.30 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 13.33 ล้านบาท อีหนู สุกัญญา หรือ “น้องเค้ก” หน้าบานยิ่งกว่ากระด้งฝัดข้าว
* สัปดาห์นี้ เป้นช่วงเวลาของหุ้นธนาคาร ที่จะทำให้ดัชนีปิด-เปิด ในกรอบแคบ ๆ ตามสถานการณ์ น่าจะเป็นช่วงเวลาทดสอบ “ความอึด” ของรายย่อยว่าจะเล่นตามเกมตัวเองหรือคนอื่นๆ
* จะมีก็แต่หุ้นกลุ่มนอน-แบงก์อย่าง MTC ที่เสี่ยชูชาติ เพ็ชรอำไพ มีสิทธิ์หัวร่อร่ามากกว่าใคร เพราะคาดว่ามีเกราะกำบัง “เข็มขัดพรหมจรรย์” 7 ชั้น ที่มาทางไหนก็กำไรได้จากการ “รอบจัด” และฐานเงินทุนที่แกร่ง ไม่ต้องดิ้นรน ไปซื้อกิจการใครมาเพิ่มเติมแบบ SAWAD (อันหลังนี้ เจ้าตัวไม่ได้พูด)
* หมอสุวินทร์ ไกรภูเบศ แห่ง BEAUTY ระยะนี้ มีคิวเดินสายพบหน้าสื่อเพื่อ “ขอชี้แจงข้อเท็จจริง“…ที่ไม่ใช่แค่เรื่องออกข่าวก่อนแจ้งตลาด เพราะพีอาร์ล้ำเส้นธรรมดา แต่เพราะมีเรื่องอธิบายไม่ได้ว่า ที่ผ่านมา ใช่กองทัพมดจากจีน ขนสินค้าไปขายแบบดิสเคาท์ จากตลาดออนไลน์จีน ที่รัฐบาลจีนไฟเขียวให้ขายสินค้าโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต “อาหารและยา”ได้เอิกเกริก แต่ยามนี้ทำไม่ได้เหมือนเดิม ทำให้ยอดหด กำไรลดฮวบ…สวนทางกับคู่แข่งที่เดินเข้าตามตรอก ออกทางประตู…เชื่อเถอะว่า ยิ่งอธิบาย ราคายิ่งร่วง
* ยิ่งพูดเรื่องเน่า ๆ ยิ่งมีเรื่องเน่ากว่า มาเติมเสียงข้อมูลของตูข้า ล่าสุด เรื่องเท่า ๆ ของ GPSC เริ่มปูด จากเกมเทกโอเวอร์กิจการของ GLOW ที่ใช้เงินเกินตัวนับแสนล้านบาท กับกลุ่ม Engie ของฝรั่งเศส,,,เท่าที่ตูข้าสดับมา เป็นรายการที่ถือว่า “ทิ้งทวนก่อนหมดวาระของใครบางคน ที่เลวกว่านักการเมือง เนื่องจาก เงินที่ตกหล่นดีลนี้ หลายพันล้านบาท คนรู้เรื่องนี้ดี ต้องถามคนชื่อ ป. และ ท. แต่จะได้คำตอบแค่ไหน..ตอบยาก เพราะคนที่ถาม อาจมีอาการ “ไม่ตาย ก็เลี้ยงไม่โต”