IRPC แย้มข่าวดีหนุนโตปี 64 ศก.ฟื้น-M&A-รุกติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ

HoonSmart.com>>”ไออาร์พีซี” มั่นใจรายได้ปี 64 มีโอกาสโตตามเศรษฐกิจ มุ่งผลิตสินค้าเกรดพิเศษเพิ่มมาร์จิ้น เจรจาซื้อกิจการโรงานเม็ดพลาสติกขึ้นรูปในประเทศไทยสำเร็จ  รุกธุรกิจติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ เอกชนหลายรายสนใจ หลังเปิดนวัตกรรรมติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขนาด 12.5 เมกะวัตต์

นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ในปี2564 มีโอกาสเพิ่มขึ้น หากทิศทางเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว หลังค้นพบวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) โรงงานเม็ดพลาสติกขึ้นรูปในประเทศ 2-3 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ ตั้งเป้าจะมีสัดส่วนการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 13% ในปัจจุบัน เป็น 21% ในปี 2564 และเพิ่มเป็น 30% ภายในปี 2567 โดยจะเน้นเกรดที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ และชนิดความหนาแน่นสูงและทนทานมากกว่าโพลีเอทิลีน (PE) ทั่วไป 10 เท่า ที่นำไปใช้ในงานผลิตแผ่นกั้นแบตเตอรี่ ข้อเข่าเทียม เชือกลากจูงเรือ เป็นต้น เพื่อสร้างความสมดุลของรายได้ รับมือกับความผันผวนทางธุรกิจในระยะยาว และยังจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้นด้วย

สำหรับแผนการลงทุนในปีหน้า บริษัทเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบ   โดยงบลงทุนหลักยังเป็นโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 5 (Euro V) และเตรียมสำหรับการเข้าซื้อกิจการด้วย

วันที่ 23 พ.ย.2563 บริษัทเปิดนวัตกรรรมติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนาด 12.5 เมกะวัตต์ (MW) ในบ่อน้ำดิบสำรองของบริษัท บนพื้นที่ 200 ไร่ ในสวนโซลาร์ลอยน้ำ จ.ระยอง ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับเขตประกอบการอุตสาหกรรม IRPC จ.ระยอง และทุ่นลอยน้ำเป็น เม็ดพลาสติก HDPE อยู่ภายใต้แบรนด์ “POLIMAXX” ช่วยลดอุณหภูมิใต้แผงโซลาร์เซลล์ได้ถึง 5-8 องศา ส่งผลให้ระบบผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูง ทนต่อแสง UV และทนต่อแรงกระแทก โดยมีอายุการใช้งานของวัสดุนานถึง 25 ปี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 10,510 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกป่าราว 10,000 ต้น นอกจากนี้ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ผิวน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำหน้าที่เป็นพื้นที่รับน้ำ  ช่วยบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งในเขตอำเภอเมือง จ.ระยอง

นายนพดล กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนขยายการลงทุนธุรกิจติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างพิจารณาขยายกำลังการผลิตในพื้นที่เดิม และพื้นที่ของบริษัทมีการขุดบ่อน้ำไว้ 5 บ่อ ติดตั้งไปแล้ว 3 บ่อ และยังเหลือพื้นที่อีก แต่การติดตั้งระยะต่อไปจะเป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก นอกจากนี้เอกชนหลายรายสนใจติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำเช่นกัน อยู่ระหว่างการเจรจา เบื้องต้นมีโครงการขนาดใหญ่ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า

สำหรับแผนการตลาดธุรกิจมี 2 แนวทาง คือการจับมือกับกลุ่มบริษัทปตท. (PTT) โดยเฉพาะบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ที่มีลูกค้าสนใจติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ ซึ่งบริษัทจะเน้นการผลิตทุ่นด้วยเม็ดพลาสติก HDPE ของ IRPC ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือการร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตทุ่นฯ ซึ่งจะนำเม็ดพลาสติก HDPE ของบริษัทไปขึ้นรูปเป็นทุ่น เพื่อติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีบ่อเก็บน้ำ และในโรงงานที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเต็มแล้ว เบื้องต้นเจรจาไว้ประมาณ 2 โครงการ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจก๊าซฯของ ปตท.ที่มีลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ อยู่แล้ว อาจจะเข้าไปเสนอขายในลักษณะผู้ให้บริการ solution provider เป็นการใช้บริการครอบคลุมทางธุรกิจตามความต้องการของลูกค้ามากกว่าการขายแค่ก๊าซฯเท่านั้น