HoonSmart.com>> ” กำธร กิตติอิสรานนท์” ลูกไม้ใกล้ต้น ” ประเดช & วินด์เอนเนอร์ยี่” ชูความแข็งแกร่งการเงินกับการปันผลครั้งแรกและครั้งต่อไป ของ WEH
“กำธร กิตติอิสรานนท์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของ “ประเดช กิตติอิสรานนท์ ” นักลงทุนรายใหญ่และอดีตผู้บริหารบริษัท เด็มโก้ ( DEMCO ) ที่ผู้เป็นพ่อให้เป็นตัวแทนเข้าบริหาร WEH บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ของไทย กำลังผลิต 717 เมกะวัตต์ สร้างกำไรปีละไม่น้อยกว่า 4-6 พันล้านบาท ขึ้นอยู่กับกำลังลม
” กำธร” เข้าบริหารงานใน WEH อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญก็ว่าได้ เพราะอะไร และทำไม ???
ท่ามกลางความขัดแย้งของผู้ถือหุ้น บนผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ WEH “กำธร” จึงเสมือนเป็น “ฮีโร่” สร้างความหวังให้กับผู้ถือหุ้นที่ต้องการเห็นเงินปันผล และการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ช่วงเวลาไม่ถึง 3 เดือน หลังจากผู้ถือหุ้นเลือกแล้ว “กำธร” ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งแรกหุ้นละ 1.40 บาท ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และเล็งว่าจะจ่ายอีกไม่น้อย บนความคาดหวังนี้ เขาทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลแล้ว ภาระกิจต่อไปการทำบริษัทเข้าตลาดหุ้น รวมไปถึงหาการลงทุนใหม่ ๆ ต่อยอดกำลังผลิตเดิมที่มี 717 เมกกะวัตต์ ทั้งหมด 8 โครงการ
เก่งการเงิน-รู้ธุรกิจวินด์ ฯ ดี
“กำธร” ลูกชายคนเล็กคนเดียวของ “ประเดช” ถูกฝึกให้ค้าขายตั้งแต่เรียนในร้านค้าส่ง “กำธร พาณิชย์” ของครอบครัวก่อนขยับขยายธุรกิจขึ้นเป็น มินิมาร์ท ที่ชื่อ “ดีดี มาร์ท” เขาทำงานกลางวันและเรียน กระทั่งจบปริญญาตรีคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สถาบันราชภัฏพระนคร จากนั้นเข้าร่วมงานที่ WEH เมื่อปี 2009 หรือ 11 ปีก่อน เข้ามาดูการเงิน ช่วงวินด์ เอนเนอร์ยี่ ฯ เริ่มสร้างโรงไฟฟ้าโครงการ 1-2 ทำได้ 2-3 ปี จึงไปศึกษาต่อวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ด้านการเงิน เพราะรู้สึกว่า ความรู้การเงินไม่พอ ก่อนลาออกไปศึกษาด้านภาษาที่สหรัฐ 1 ปี และถูกเรียกกลับมาช่วยงานบริษัท อาร์.เอส.เอส.ของครอบครัว ซึ่งถือหุ้นใหญ่ 60 % เป็นบริษัททำก่อสร้าง สายส่ง สถานีไฟฟ้า “กำธร” เข้ามาดูแลด้านการเงินตามความถนัด
เขากลับเข้ามาใน WEH อีกครั้งในปี 2017 หรือปี 2560 ที่ “ประเดช” เข้ามาซื้อหุ้น WEH เพิ่ม จึงถูกดึงตัวเข้ามาเป็นบอร์ดใน WEH แทนพ่อ และเดือนก.ย. 2563 ที่ผ่านมา เข้ามาร่วมงานเต็มตัวอีกครั้ง รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ใน WEH
” กำธร ” จึงเป็นคนหนึ่ง ที่รู้จักธุรกิจของ วินด์ ฯ เป็นอย่างดี เขาบอกว่า “ผมเก่งการเงิน แต่การรันด์โรงไฟฟ้า ผมรู้ว่า ใครทำเป็น ใครทำได้ การดูผลประกอบการบริหารโรงไฟฟ้าแดด-ลม ให้ดูการบริหารรายจ่าย กำไรหรือไม่ อยู่ที่ค่าลม สำหรับ วินด์ วันนี้เราคุมรายจ่ายและทำให้ดีที่สุด ”
วินด์ ฯ แข็งแรง กับการปันผลครั้งแรก
ที่มาของการจ่ายเงินปันผลครั้งแรก 1.40 บาท เป็นเงินกำไรจากผลประกอบการปี 2562 ที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรจำนวนมาก และกำไรสะสมที่มีราว 8,000 ล้านบาท นำไปใช้หนี้ธนาคารไทยพาณิชย์จ่ายครบหมดหนี้แล้ว หลัง 5 โครงการหลังกำลังผลิต 450 เมกกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าได้ครบหมด ….เมื่อคืนหนี้หมดแล้ว การจ่ายเงินปันผลเพื่อให้โลกรู้ว่า บริษัท วินด์ ฯ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่ง ” กำธร ” บอกว่า วินด์ จ่ายหนี้คืนแบงก์ก่อนเสมอ แม้ว่าบริษัทแม่จะคืนหนี้หมด แต่ละโครงการยังมีเงินกู้โครงการ 12-14 ปี
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะปันผลอีกครั้ง 15 บาท/หุ้น นั้น มีความเป็นไปได้สูง เพราะ “กำธร ” เชื่อว่าผลประกอบการโดยเฉพาะไตรมาส 4 รายได้น่าจะเกิน 4,000 ล้านบาท หรือกำไร 2,000 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงกำลังลมดี การปันผลผู้ถือหุ้น 1,800 ล้านบาท ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 108 ล้านหุ้นเศษ ถือว่าเล็กน้อยสำหรับกำไรปีละ 6,000 ล้านบาท
เป้า 5 ปี กำลังผลิตขึ้นเท่าตัว
ประธานบอร์ดบริหาร กล่าวถึงการต่อยอดกำลังผลิตในอนาคต เพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่ ว่า เป้าหมายทุก ๆ 5 ปี กำลังผลิตต้องเพิ่มขึ้น 600-800 เมกะวัตต์ บนข้อจำกัดที่ต้องทำงานให้ง่ายขึ้น ผลตอบแทนการลงทุนต้องมากกว่า 2 หลัก หรือ 12 % ซึ่งที่เวียดนาม น่าจะให้ผลตอบแทนที่ต้องการได้ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม , โซลาร์ฟาร์ อยู่ระหว่างเริ่มศึกษาร่วมกับภาครัฐ
เตรียมขายหุ้นกู้ ทดลองตลาด 2,000 ล้านบาท
เมื่อแผนการชัดเจนตั้งเป้าศึกษาที่เวียดนาม การเตรียมการเรื่องเงินทุน การระดมทุนในตลาดทุนแต่เนิ่น ๆ จึงเริ่มขึ้น โดย WEH อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ ไม่มีเรตติ้ง อายุ 2 ปี มูลค่า 2,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยงามประมาณ 6.25 % ออกมาทดลองตลาด
“กำธร” ย้ำว่า หุ้นกู้ WEH แม้ว่าไม่มีเรตติ้ง แต่ก็ไม่มีความเสี่ยง เพราะวินด์ มีความแข็งแกร่งทางการเงินสูง ปีที่กำลังลมแย่ ๆ สุด ยังกำไร 4,000 ล้านบาท มีลูกค้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นลูกค้าคุณภาพตลอดสัญญาการขายไฟฟ้า 25 ปี
อ่านข่าว
