โดย…รัสปูติน
www.HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 13 ก.ค.2561
* แม้ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกร่งยังเกินคาด แต่มูลค่าซื้อขายที่ลดลงฮวบต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ที่มีแค่ 4.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ต้องตีความกันใหม่ว่า ตลาดจะวายหรือไม่ หรือเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว
* การขายแบบตื่นตระหนกเมื่อวันพุธ แล้วตามมาด้วยหุ้นชั้นดีที่เข้าเทรดวันแรก TEAMG กลับทำราคาต่ำกว่า 3.00 บาท (ปิดตลาดที่ราคา 2.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,665.7 ล้านบาท) ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีที่หุ้นไม่หลุดจองธรรมดา เพราะมันส่งสัญญาณไปถึงหุ้นรายต่อไปที่จะเข้าเทรดด้วย
* ข่าวดีที่รอจนหิว แม้จะยังไม่ใช่ของจริงก็ต้องฉลอง EA แค่มีข่าวเข้าร่วมลงนาม MOU กับ 2 พันธมิตรเกาหลีใต้ KEPCO KDN Co., Ltd. และ ILJIN Power Co., Ltd. ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้นำในธุรกิจไฟฟ้าของเกาหลีใต้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางการค้าการลงทุนร่วมกับ EA ในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน แรงซื้อก็มาทั้งวอลุ่ม 931 ล้านบาทและราคาที่ชนเพดาน 35.00 บาททันที ฉับไวไม่โกหก ส่วนจะจริงหรือไม่ ต้องว่ากันอีกยาว
* พูดถึงข่าวดี กรณีจีนกับสหรัฐฯ ส่งสัญญาณสงบสงครามการค้าชั่วคราวที่ดันดาวโจนส์ใกล้ทะลวง 25,000 จุด ทุกขณะคืนที่ผ่านมา เป็นข่าวดีของโลก แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับไทย เพราะอนาคตอันใกล้จะต้องมีฟันด์โฟลว์ไหลออกอีกเพียบจากแนวโน้มดอกเบี้ยโลกขาขึ้น และค่าบาทอ่อน อันนี้ต้องหมายเหตุเอาไว้ กันสูเจ้าจะขี้หลงขี้ลืมเพราะติดดอยกันนานเกินจนปรับพอร์ตไม่เป็น
* รายนี้ เจอพิษของ BEAUTY เข้าไปด้วย DDD เจ้าของครีมหอยทาก “SNAILWHITE” โดนอีกรายข่าวลือออเดอร์ปลอม ถูกก.ล.ต.ตรวจสอบ …(จริงหรือไม่ ยากจะรู้) พร้อมแรงขายของผู้ถือหุ้นใหญ่ ราคาปิดล่าสุดเด้งกลับให้นินทากันเล่น บวกไป 4.00 บาท ที่ระดับ 51.75 บาท ทั้งที่มีคนพยายามดันขึ้นไปถึง 54.00 บาท อย่างนี้ ตอบได้คำเดียวว่าแรงดันหมด
* ส่วนรายนี้ เจอของปลอมระบาด หุ้นดับเพลิง FTE พุ่งแรงเกือบ 10% บวกไปที่ 2.38 บาท หลังผู้บริหารออกข่าวดี ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตแตะ 1.08 พันล้านบาท หลังตุน Backlog แน่น 350 ล้านบาท แต่จบไม่สวย เพราะบวกแค่ 0.04 บาท ที่ราคาปิด 2.22 บาท ใครขายช้า ติดหุ้นอีกครั้ง ช่วยไม่ได้จริงๆ
* หุ้นการเงินนอนแบงก์ไม่มีคำว่าโลว์ซีซั่น แต่นาแปลก AEONTS โชว์กำไรไตรมาสแรกสไตล์ญี่ปุ่น (สิ้นสุด 31 พ.ค.61) โตกระฉูด ดันราคาวิ่งแรงกว่า 10% ทุบสถิติ “ออลไทม์ไฮ” แต่ราคาลบเฉย ปิดตลาดที่ 184.00 บาท ไม่เข้าใจจริงๆ กับตรรกะ “ขายเมื่อมีข่าวดี”
* นี่ก็เช่นกัน บ้าไปแล้วกำไรสวยยังทิ้ง สำหรับหุ้นการเงินครบวงจร TISCO งวดครึ่งแรกของปี 61 มีกำไรสุทธิ 3,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 479 ล้านบาท หรือ เติบโต 16.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวดไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 1,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204 ล้านบาท หรือ เติบโต 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีขาทุบจับประเด็นกำไรลดเทียบกับไตรมาสแรก ทิ้งหุ้นให้มีค่าโง่เสียอย่างนั้น
* ตูข้าเป็นงง…สถาบันการเงินที่มีความสามารถในการสร้างรายได้ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากผู้บริหารมืออาชีพ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภัย และธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุน เพียงแค่สินเชื่อในไตรมาสที่ถือเป็นโลว์ซีซั่น และมีNPL ขยับขึ้นจากลูกค้าแค่รายเดียวที่มีหลักประกันเกินคุ้มในกลุ่ม SME กลับมองเห็นชัด แต่ธุรกิจหลักที่ฟื้นตัว เช่นสินเชื่อจำนำทะเบียน (TISCO Auto Cash) กลับมีคนจงใจโง่กันได้ เจริญกันเถอะสูเจ้า..ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น
* สำหรับตูข้า ปกติไม่เคยมองหุ้นแบบนี้ เพราะราคาสูง แต่เห็นค่าโง่ที่จ่ายพร่ำเพรื่อแล้วทนไม่ไหว..ต้องขอบอกหนังสือสังฆราชกันบ้าง..เหลืออดเหลือทนจริงๆงานนี้