JWD ขยายฐานธุรกิจ “การลงทุน” รุกพัฒนาคลังสินค้า Built-to-Suit เพิ่มรายได้ประจำ

HoonSmart.com>> “เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์” รุกขยายฐานกลุ่มธุรกิจ “การลงทุน” เพิ่มรายได้ประจำจากค่าเช่าและรับบริหาร รุกพัฒนาคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit โครงการแรกในนิคมฯ นวนคร เริ่มเปิดดำเนินการ พ.ย.63 รับรู้รายได้ระยะยาว 15 ปี สัญญารับจ้างบบริหารอาคาร 10 ปี วงเงินกว่า 400 ล้านบาท พร้อมวางแผนขยายสู่การพัฒนาคลังสินค้าห้องเย็นแบบ Built-to-Suit เพื่อต่อยอดนำสินทรัพย์ตั้งกองทรัสต์ในอนาคต

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า ได้วางนโยบายขยายฐานธุรกิจด้าน “การลงทุน” (Investment) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อเสริมศักยภาพการสร้างรายได้ประจำที่มีความมั่นคงในระยะยาว อาทิ การสร้างรายได้จากค่าเช่า รายได้จากค่าบริหารคลังสินค้า ฯลฯ จากปัจจุบันที่มีการลงทุนในกองทรัสต์ AIMIRT และลงทุนถือหุ้นใน Phnom Penh SEZ Plc. (PPSEZ) ซึ่งเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รุกขยายธุรกิจด้านการลงทุน เข้าสู่การพัฒนาและรับบริหารอาคารคลังสินค้าที่ออกแบบและก่อสร้างตาม ความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit Warehouse) เช่น การออกแบบและก่อสร้างคลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย, คลังสินค้าห้องเย็น เป็นต้น ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยโมเดลธุรกิจดังกล่าวบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนที่ดินและก่อสร้างอาคารคลังสินค้า เมื่อพัฒนาแล้วเสร็จทางลูกค้าจะทำสัญญาเช่าและสัญญาจ้างบริหารอาคารในระยะยาว ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ประจำในระยะยาว

ล่าสุด JWD ได้ใช้งบลงทุนกว่า 160 ล้านบาท ซื้อที่ดินและดำเนินการก่อสร้างอาคารคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit แห่งแรก ให้แก่ CRANE WORLDWIDE LOGISTICS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์และตัวแทนรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับโลก โดยคลังสินค้าดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ออกแบบเพื่อใช้จัดเก็บสินค้าเคมีภัณฑ์ ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม นวนคร จังหวัดปทุมธานี รองรับสินค้าของ ECOLAB ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดการน้ำ บริการเพื่อสุขอนามัยและป้องกันการติดเชื้อรายใหญ่

อาคารคลังสินค้าดังกล่าว เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป โดย CRANE WORLDWIDE LOGISTICS ได้ทำสัญญาเช่าใช้คลังสินค้ากับบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 15 ปี และสัญญาว่าจ้างบริษัทฯ เพื่อบริหารอาคารเป็นระยะเวลา 10 ปี วงเงินตามสัญญารวมกว่า 400 ล้านบาท ซึ่ง JWD จะทยอยรับรู้รายได้จากค่าเช่าและค่าบริหารอาคารอย่างต่อเนื่องทุกเดือนตลอดอายุสัญญา

ขณะเดียวกัน การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายทำเลการให้บริการคลังสินค้าเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ โซนเหนือเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นทำเลเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Location) ที่สำคัญ จากปัจจุบันที่ JWD มีธุรกิจคลังสินค้าในทำเลอื่น ๆ เช่น แหลมฉบัง บางนา
สุวินทวงศ์ มหาชัย เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายขีดความสามารถให้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

“เรามีแผนขยายธุรกิจด้านการลงทุน ในรูปแบบการสร้างคลังสินค้าให้เช่า การก่อสร้างคลังตามความต้องการองลูกค้า รวมทั้งโมเดลร่วมทุนกับลูกค้าเพื่อสร้างและบริหารคลังสำหรับลูกค้าเฉพาะราย อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจา และจะขยายการลงทุนในรูปแบบ Built-to-Suit Warehouse และโมเดลการร่วมทุนกับลูกค้า ในกลุ่มคลังสินค้าห้องเย็น ส่วนแผนงานในอนาคตเราต้องการนำสินทรัพย์เหล่านี้จัดตั้งกองทรัสต์ เพื่อระดมทุนนำมาใช้ต่อยอดการขยายธุรกิจเพื่อก้าวเป็นผู้นำธุรกิจในภูมิภาคนี้” นายชวนินทร์ กล่าว

นายรอย ตัน กรรมการผู้จัดการ อินโด-ไชน่า บริษัท เครน เวิลด์ไวล์ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้รู้จักกับซีอีโอของ JWD มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี และมีความมั่นใจที่มอบหมายให้ JWD ดูแลโปรเจ็คดังกล่าว เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และการบริหารคลังสินค้า โดยเฉพาะคลังสินค้าเพื่อจัดเก็บเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง ซึ่ง JWD สามารถดำเนินการออกแบบก่อสร้างอาคารได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ปัจจุบันได้เริ่มนำเคมีภัณฑ์เข้าจัดเก็บในคลังสินค้าแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า (ECOLAB) ได้อย่างดี