บลจ.ทหารไทยจ่ายเงินคืนผู้ถือหน่วยปิด 4 กองทุนแล้วกว่า 1.42 แสนลบ.

HoonSmart.com>> บลจ.ทหารไทย จ่ายเงินคืนผู้ถือหน่วย 4 กองทุนตราสารหนี้แล้วกว่า 142,308 ล้านบาท คิดเป็น 88-100.06% ของสินทรัพย์ในแต่ละกองทุน “ทหารไทย ธนพลัส” คืนครบรวม 100.06% มั่นใจจ่ายคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รักษามูลค่าหน่วยลงทุนไว้ในระดับใกล้เคียงกับ NAV ณ วันปิดกองทุนได้ทุกกองทุน พร้อมนำเสนอกองทุนตราสารหนี้คุณภาพดี เพื่อบริหารสภาพคล่อง จัดพอร์ตลงทุนผ่าน 3 กองทุน “TMB-T-ES-IPlus, TMB-T-ES-DPlus, TMB-T-APlus”

อดิศร เสริมชัยวงศ์

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย (TMBAM Eastspring) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จ่ายคืนผู้ถือหน่วยลงทุน 4 กองทุนตราสารหนี้ที่ปิดกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส (TMBTHANAPLUS), กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล (TMBBF), กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน (TMBUSB) และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ (TMBABF) ไปแล้วกว่า 142,308 ล้านบาท คิดเป็น 88-100.06% ของสินทรัพย์ในแต่ละกองทุน ข้อมูล ณ วันที่ 13 พ.ย. โดยระหว่างการเข้าสู่ขั้นตอนการชำระบัญชีและจ่ายคืนผู้ถือหน่วยลงทุนนั้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมและเท่าเทียมให้กับผู้ถือหน่วยทุกรายสำหรับการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้ถือหน่วยเกี่ยวกับแนวทางในการชำระบัญชีกองทุนในระยะต่อ ๆ ไป

บริษัทฯ ได้นำทางเลือกจากการสำรวจความคิดเห็นที่ได้รับเลือกสูงที่สุดได้นำเสนอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตดำเนินการขยายระยะเวลาชำระบัญชีและได้รับความเห็นชอบแล้ว นับแต่การปิดกองทุนตราสารหนี้ทั้ง 4 กองทุนไปในช่วงตลาดเงินตลาดทุนปั่นป่วนจากผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีตามกฎหมายวันที่ 10 เม.ย.2563 นั้น

ในช่วง 7 เดือนกว่าที่ผ่านมา TMBAM Eastspring สามารถจ่ายคืนเงินแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้มูลค่าที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์ของกองทุนทั้ง 4 ที่ผ่านมาเสียหาย เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนถือครองในวันทำการซื้อขายสุดท้าย

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ TMBAM Eastspring และกรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต จำกัด (Thannachart Fund Eastspring) กล่าวว่า TMBAM Eastspring ยกเลิกกองทุนตราสารหนี้ทั้ง 4 กอง ท่ามกลางความผันผวนของสภาพตลาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากการระบาดของโควิด-19 การตัดสินใจยกเลิกกองทุนตราสารหนี้ทั้ง 4 กองทุนที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวนั้น เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นเช่นกัน เช่น ในประเทศอินเดียเป็นต้น เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ การเร่งขายในช่วงที่ตลาดตื่นตระหนกจะทำให้ขาดทุนอย่างหนัก และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งการเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีก็เพื่อให้การทยอยขายสินทรัพย์จ่ายคืนผู้ลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษาต้นทุน (Capital Preservation) ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกท่าน

“สำหรับการตัดสินใจของเราในครั้งนั้น เราคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุนของเราสูงสุด การตัดสินใจปิดกองทุน จะเป็นวิธีการดีที่สุดที่จะช่วยหยุดการเร่งขาย ด้วยขนาดกองทุนทั้ง 4 ที่มีขนาดรวมกันใหญ่กว่าสองแสนล้านบาท ด้วยปริมาณการขายที่สูงและรุนแรง จะสร้างความตื่นตระหนก (Panic) ในตลาดตราสารหนี้ และกระทบรุนแรงต่อตลาดการเงินของประเทศได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราพิสูจน์แล้วว่า ทำได้ตามสัญญาสามารถรักษามูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนในวันทำการสุดท้ายให้ได้ใกล้เคียงกับมูลค่าเดิมทั้ง 4 กองทุน โดยในระยะเวลาประมาณ 7 เดือนกว่า สามารถจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วเกือบทั้งหมด โดยกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีขนาด AUM ที่สูงที่สุดที่ได้ปิดกองทุนไป (กว่า 75,000 ล้านบาท) ทำการจ่ายเงินคืนงวดสุดท้ายแล้ว”นายอดิศร กล่าว

นอกจากนี้สามารถรักษามูลค่า NAV ได้ดีเมื่อเที่ยบกับ ณ วันที่ยกเลิกกองทุน (100.06%) และกำลังจะเสร็จสิ้นกระบวนการชำระบัญชี ส่วนอีก 3 กองทุนที่เหลือได้จ่ายคืนไปได้แล้ว 88-94% และสำหรับการชำระบัญชีในระยะต่อไปนั้น ได้ทำตามผลสำรวจความเห็นของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ส่วนใหญ่ต้องการให้รักษามูลค่าต้นทุน และถือสินทรัพย์จนถึงวันที่ตราสารหนี้ตัวสุดท้ายจะครบกำหนดอายุ โดยมีโอกาสจะได้ราคายุติธรรม ซึ่งบริษัทจะทำการขายและพยายามทำให้การจ่ายเงินคืนยังคงมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ขอให้ผู้ลงทุนทุกท่านมั่นใจเพราะสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ในกองทุนตราสารหนี้ทั้งหมดมีคุณภาพอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grades) ทั้งสิ้น

นายอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า การปิดกองทุนตราสารหนี้ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของเราขาดกองทุนตราสารหนี้คุณภาพชั้นดีเพื่อใช้บริหารสภาพคล่องและจัดพอร์ตลงทุน ระหว่างที่ TMBAM Eastspring โฟกัสการบริหารกองทุนที่ปิดไปเพื่อเร่งกระบวนการชำระบัญชีและจ่ายคืนผู้ถือหน่วยลงทุน อีกหนึ่งบริษัทจัดการลงทุนในเครือ Eastspring คือThanachart Fund Eastspring พร้อมนำเสนอกองทุนตราสารหนี้คุณภาพดีใน 3 รูปแบบ TMB-T-ES-IPlus, TMB-T-ES-DPlus และ TMB-T-APlus ที่มีการพลัสกลยุทธ์การลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่าเดิม

สำหรับ TMB-T-ES-IPlus จะเน้นเสนอผู้ลงทุนรายย่อย โดยมีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยจะพลัสโอกาสในเงินฝากต่างประได้สูงถึง 40% แต่จะลงทุนในตราสารคุณภาพดีที่ได้รับการให้อยู่ในกลุ่มน่าลงทุนเป็นหลัก และมี Portfolio Duration เฉลี่ยจะอยู่ไม่เกิน 1.5 ปี

ส่วนกองทุน TMB-T-ES-DPlus จะเน้นเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน โดยมีนโยบายลงทุนคล้ายกับ TMB-T-ES-IPlus แต่ Portfolio Duration เฉลี่ยจะอยู่ไม่เกิน 1 ปี ทำให้พอร์ตลงทุนมีความผันผวนน้อยกว่า

กองทุนตราสารหนี้น้องใหม่อย่าง TMB-T-APlus ที่จะเน้นเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไปทั้งสถาบันและรายย่อย คาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่า และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ เพราะกองทุนมีนโนบายลงทุนในกองทุนหลัก คือ Eastspring Investments – Capital Reserve Fund เพียงกองทุนเดียว ซึ่งมีนโยบายกระจายลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก โดยจะบริหารพอร์ตแบบ Dynamic Allocation ที่จะเน้นเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุนตามวัฎจักรเศรษฐกิจ ทำให้กองทุนนี้มีความพิเศษ เหมาะกับการนำมาไว้ในพอร์ตลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

”จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อมั่นว่าบริษัทสามารถบริหารกองทุนโดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ให้มีประสิทธิภาพได้ในทุกช่วงเวลา เราจะมุ่งมั่นเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี มีการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวม เช่น การคัดเลือกตราสารคุณภาพเพื่อประกอบพอร์ตการลงทุน และการนำระบบ Aladdin ซึ่งเป็นมาตรฐานการควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ที่ Eastspring ใช้อยู่ มาช่วยในการติดตามความเสี่ยงและลดความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ การเพิ่มกระบวนการกำกับดูแลการออกแบบและการจัดการผลิตภัณฑ์ (Product Governance Framework) ให้มีความแข็งแกร่งและทันท่วงที เป็นต้น”นายอดิศร กล่าว